Tag: อัมพาต

  • ออกกำลังกายพัฒนาสุขภาพ บรรเทาโรคต่าง ๆ ได้

    ออกกำลังกายพัฒนาสุขภาพ บรรเทาโรคต่าง ๆ ได้

    ออกกำลังกายพัฒนาสุขภาพ บรรเทาโรคต่าง ๆ ได้ การหาเวลาการออกกำลังกายวันละ 30 นาที เพียงแต่สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ยังผลให้สุขภาพกายเราดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ช่วยต่อต้านโรคภัยได้หลากหลาย ซึ่งการออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณดังต่อไปนี้ 1. ช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกายออกทางรูขุมขนซึ่งก็คือเหงื่อนั่นเอง ช่วยลดสารพิษตกค้างในร่างกายด้วย 2. ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น กว่าร้อยละ 70 ของคนที่ออกกำลังกายจะนอนหลับได้สนิทกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกายเลย ทั้งนี้ควรออกกำลังกายก่อนเวลา 3 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยค่ะ 3. ช่วยเสริมสร้างความจำ ทำให้ความจำดีขึ้น กระตุ้นความคิดและทำให้สุขภาพจิตดี ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์และโรคทางจิตเวชอื่น ๆ ได้ 4. ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น ลดเวลาการย่อยลง ลดความเจ็บปวดจากโรคริดสีดวงทวารและลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ดี ส่งเสริมให้หลอดเลือดและหัวใจทำงานได้มากขึ้น เพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหารด้วย 5. ทำให้มีสุขภาพจิตทีดี ลดความเครียด บรรเทาอาการซึมเศร้าและความวิตกกังวลต่าง ๆ ลดความคิดในการฆ่าตัวตายได้ 6. ช่วยให้กระดูกแข็งแรง มวลกระดูกเพิ่มขึ้นและหนาแน่นขึ้น ลดความเจ็บปวดจากหลังได้ร้อยละ 80 กระตุ้นการทำงานของกระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกรานและกล้ามเนื้อโดยรอบ ช่วยขับของเสียออกจากล้ามเนื้อและกระดูกให้มีความแข็งแรงมากขึ้นได้ 7. ป้องกันโรคหวัด ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวทำงานต่อสู้กับเชื้อโรคได้รวดเร็วและตอบสนองได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงติดโรคเรื้อรังได้…

  • ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน

    ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน

    ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่มักเป็นตลอดชีวิต หากปล่อยปละละเลยหรือขาดการดูแล ก็อาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงจนรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ รวมไปถึงอาจเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่จะค่อย ๆ ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายเสื่อมสภาพลงจนเกิดโรคแทรกซ้อนได้ทุกระบบ ซึ่งได้แก่ – หลอดเลือดแดงทั้งเล็กและใหญ่ทั่วร่างกายแข็งและตีบ ทำให้อวัยวะต่าง ๆ เกิดความเสื่อมได้ เช่น จอประสาทตาเสื่อม ตามัว ตาบอด ไตวายเรื้อรัง ประสาทเสื้อ ทำให้มีอาการชาปลายมือปลายเท้า ท้องเดินหรือท้องผูก – โรคกระเพาะอาหารเรื้อรัง – หน้าซีดเป็นลมเวลาลุกขึ้นยืน – องคชาตไม่แข็งตัว – หลอดเลือดหัวใจตีบ ทำให้หัวใจวายเสียชีวิตได้ – อัมพาต – ความจำเสื่อม – ติดเชื้อได้ง่าย เพราะเบาหวานทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง และอาจติดเชื้อซ้ำซาก เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ช่องคลอดอักเสบ โรคเชื้อราที่ผิวหนัง ฝี พุพอง – การติดเชื้อรุนแรง เช่น กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน ปอดอักเสบ วัณโรค –…

  • ป้องกันตัวเองจากอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต

    ป้องกันตัวเองจากอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต

    ป้องกันตัวเองจากอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต ทุกปีจะมีคนเสียชีวิตจากอาการอัมพาตถึงกว่าปีละหกล้านคน มากกว่าการตายจากโรคเอดส์ วัณโรคและมาเลเรียรวมกันเสียอีก เฉพาะในประเทศไทยเองมีคนตายจากโรคหลอดเลือดสมองโดยเฉลี่ยถึงวันละเกือบ 40 ราย หากคุณไม่อยากเป็นหนึ่งในนั้น ก็ควรมาทำความรู้จักกับโรคนี้และหาวิธีป้องกันไว้ก่อนดีกว่า โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือโรคหลอดเลือดสมองนี้เป็นโรคที่เกิดจากการที่สมองได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ทำให้สูญเสียการควบคุมการทำงานของร่างกาย แบ่งออกเป็นหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน และอีกชนิดก็คือหลอดเลือดสมองแตก ผู้ที่มีความเสี่ยงมากก็จะเป็นในกลุ่มผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง มีกรรมพันธ์เป็นโรคหลอดเลือดสมอง กลุ่มคนอ้วน ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย รวมไปถึงผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำและผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะด้วย ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่กล่าวมานี้ควรใส่ใจสุขภาพให้มากขึ้น จะป้องกันได้กว่าร้อยละ 80 ควรปฏิบัติตามดังต่อไปนี้ 1. ควบคุมน้ำหนักตัวอย่าให้อ้วนเกินมาตรฐาน โดยให้มีค่าดัชนีมวลกายอยู่ที่ 18.5-22.9 กิโลกรัมต่อตารางเมตร 2. ลดอาหารหวาน มัน เค็ม แล้วทานผักและผลไม้ไม่หวาน รวมไปถึงธัญพืชต่าง ๆ ให้มากขึ้น 3. หากตนเองเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือโรคอื่น ๆ ก็ควรเข้ารับการตรวจรักษาจากแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำ 4. ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง อาทิตย์ละ 3-4 วัน 5. งดการดื่มเหล้า และการสูบบุหรี่ รวมไปถึงควันบุหรี่มือสองด้วย…

  • ผู้หญิงวัยทอง อ้วนง่ายขึ้นนะจ๊ะ

    ผู้หญิงวัยทอง อ้วนง่ายขึ้นนะจ๊ะ

    ผู้หญิงวัยทอง อ้วนง่ายขึ้นนะจ๊ะ ในผู้หญิงวัยทองเมื่อฮอร์โมนหมดไปแล้วจะมีอาการหงุดหงิดได้ง่าย อารมณ์แปรปรวน นอนไม่หลับและใจสั่น ซึ่งอาการก็ไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่สิ่งที่รุนแรงกว่าคือโรคเรื้อรังที่เกิดจากวัยหมดประจำเดือน เกิดจากความชราภาพของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายตามกระบวนการธรรมชาติ ซึ่งฮอร์โมนก็เป็นส่วนหนึ่งด้วย หากร่างกายมีภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน ความเสี่ยงก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีกที่จะเป็นโรคความดันโลหิต เบาหวาน ไขมันเลือด โรคมะเร็ง โรคหัวใจขาดเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาตได้ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วย ในช่วงวัยหมดประจำเดือนจึงต้องเป็นช่วงเวลาที่ควบคุมการเพิ่มของน้ำหนักอย่างเข้มงวด เพราะเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุของโรคร้ายแรงที่อาจคร่าชีวิตก่อนวัยอันควรได้ ในวัยอื่นนั้น ปัจจัยที่ทำให้ร่างกายมีความอ้วนน้ำหนักเกินขึ้นอยู่กับการทานอาหารเป็นสำคัญ แต่ในวัยหมดประจำเดือน บางครั้งแม้จะควบคุมอาหารอย่างเต็มที่แล้วก็ยังไม่สามารถควบคุมน้ำหนักไว้ได้ ซึ่งทางที่ดีที่สุดก็คือควรควบคุมไว้ตั้งแต่วัยก่อนหมดประจำเดือน ในสังคมคนเมืองปัจจุบันนี้อาหารการกินกลับเริ่มแย่ลง คนเรากินอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีไขมันสูง ไม่มีคุณค่าทางอาหารมากขึ้น ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนได้ง่าย จริงอยู่ว่าเราอาจไม่สามารถทำอาหารทานเองได้ทุกมื้อ แต่เป็นไปได้ก็ควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ มีไขมันต่ำ มีรสหวานน้อย ๆ เค็มน้อย ๆ แล้วทานผักผลไม้ให้มากขึ้น ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้ตั้งแต่วัยก่อนหมดประจำเดือน ในส่วนของการออกกำลังกาย อย่างน้อยที่สุดควรให้ร่างกายได้ออกกำลังกายบ้าง แต่ละวันให้มีเวลาเดินเล่นอย่างน้อย 30-60 นาที จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นมาก ควรเดินในเวลาที่มีแดดอ่อน ๆ อย่างช่วงเช้า ช่วงเย็น การตากแดดอ่อน ๆ จะช่วยให้ผิวหนังได้รับวิตามินดี ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย เพราะเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันรุดหน้าไปมาก…

  • เป็นโรคความดันโลหิตสูงต้องลดอาหารเค็มนะ

    เป็นโรคความดันโลหิตสูงต้องลดอาหารเค็มนะ

    เป็นโรคความดันโลหิตสูงต้องลดอาหารเค็มนะ โรคความดันโลหิตสูงคือ โรคที่ผู้ป่วยมีค่าความดันโลหิตเกินกว่า 140/90 ขึ้นไป เป็นฆาตกรเงียบ ผุ้ป่วยมักไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีอาการ อาจมีอาการเตือนบ้างเช่น ปวดมึนท้ายทอย วิงเวียน ปวดหัวตุบ ๆ ยิ่งปล่อยให้เป็นนานเท่าไรก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อหลอดเลือดทั่วร่างกายเท่านั้น ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต กล้ามเนื้อหัวใจวายเฉียบพลัน ไตวาย ฯลฯ ซึ่งมีความอันตรายมาก ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงความดูแลตนเอง ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานผัก ผลไม้สดไม่หวานและลดอาหารที่มีรสหวานมันเค็ม อีกทั้งยังควรผ่อนคลายความเครียดด้วย อีกสองอย่างที่ควรเลิกอย่างเด็ดขาดเลยก็คือเหล้าและบุหรี่ สาเหตุที่คนป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงควรลดอาหารเค็ม ก็เพราะในเกลือนี้จะมี โซเดียม อยู่มากโซเดียมจะดูดน้ำได้ดี นอกจากพบมากในเกลือแล้ว ยังพบได้อีกใน ผงชูรส สารกันเสีย ผงฟูที่ใส่ในอาหารพวกเบเกอรี่ ขนมปังต่าง ๆ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าเวลาทานอาหารเหล่านี้แล้วเรามักหิวน้ำมากนั่นเอง การงดอการเค็มก็เพื่อป้องกันมิให้น้ำคั่งในร่างกายมากขึ้น น้ำเลือดเพิ่มขึ้นแต่หลอดเลือดมีขนาดเท่าเดิม บางคนยังแข็ง ตีบ เปราะอีก อาจทำให้เกิดแรงดันในหลอดเลือดสูงขึ้น จนเส้นเลือดแตกหรือฉีกขาดได้ นอกจากนี้การกินเค็มมากยังทำให้เกิดมะเร็งในกระเพาะอาหารได้อีก ซึ่งการลดโซเดียมในอาหารนี้ก็มีเคล็ดลับง่าย ๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ – ไม่เติมเครื่องปรุงเพิ่มไม่ว่าจะเป็น ผงชูรส น้ำปลา เกลือ…

  • สัญญาณอันตรายของโรค อัมพฤกษ์ อัมพาต!

    สัญญาณอันตรายของโรค อัมพฤกษ์ อัมพาต!

    สัญญาณอันตรายของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต! โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือ โรคหลอดเลือดสมองนั้น นับเป็นโรคที่อันตรายและเป็นสาเหตุของการตายเป็นลำดับต้น ๆ ของคนไทย แม้จะรอดมาได้แต่ก็ต้องอยู่อย่างพิการ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน คอเลสเตอรอลในเลือดสูง มีกรรมพันธุ์หรือญาติสายตรงเคยเป็นโรคหลอดเลือดสมองมาก่อน ไม่ยอมออกกำลังกาย อ้วนน้ำหนักเกินมาตรฐาน สูบบุหรี่ และมีภาวะหัวใจห้องบนเต้นแผ่วระรัว ผู้ที่มีอาการของโรคหลอดเลือดสมองมักจะสัญญาณเตือนได้แก่ – อ่อนแรงบริเวณใบหน้า แขนขาแบบฉับพลัน และมักจะเป็นข้างเดียวของร่างกาย – จู่ ๆ ก็พูดไม่รู้เรื่อง สับสน พูดลำบาก – ตามัว หรือมีปัญหาการมองเห็นทันทีอาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ – มึนงง เสียสมดุลในการเดินแบบฉับพลันทันด่วน หากพบเห็นผู้ใดมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งข้างต้นแค่ข้อเดียวหรือหลายข้อรวมกัน ควรรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที และควรมาให้ทันภายใน 3 ชั่วโมงที่มีอาการ ผู้ป่วยจะมีโอกาสรอดจากภาวะอัมพฤกษ์อัมพาต และหายได้ ในส่วนของการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองนี้ มีแนวทางง่าย ๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ 1. ควบคุมความดันโลหิต ระดับของน้ำตาล และไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน 2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3-4…

  • โรคลมปัจจุบัน หรืออัมพาตครึ่งซีกจะป้องกันได้อย่างไร

    โรคลมปัจจุบัน หรืออัมพาตครึ่งซีกจะป้องกันได้อย่างไร

    โรคลมปัจจุบัน หรืออัมพาตครึ่งซีกจะป้องกันได้อย่างไร โรคลมปัจจุบัน หรือ โรคหลอดเลือดสมอง หรืออาจเรียกว่า โรคลมอัมพาต หรืออัมพาตครึ่งซีกก็ได้นั้น คืออาการที่แขนขาซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรง เป็นอัมพาตขึ้นมาแบบฉับพลัน เมื่อเป็นขึ้นมาควรรีบพาไปโรงพยาบาลโดยด่วน จะช่วยให้หายเป็นปกติหรือลดความรุนแรงของโรคไปได้ โดยโรคนี้นั้นแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน ซึ่งพบได้กว่าร้อยละ 80 และโรคหลอดเลือดสมองแตกพบได้ราวร้อยละ 20 มีภาวะที่อันตรายอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตอย่างรวดเร็วได้ แต่ละอาการนั้นมีสาเหตุและอาการที่แตกต่างกัน ได้แก่ 1. โรคหลอดเลือดสมองตีบ มักเป็นผู้ที่มีประวัติเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่จัด ดื่มเหล้า เบียร์ แอลกอฮอล์มาก อายุมาก อ้วนมาก หรือมีกรรมพันธ์โรคนี้อยู่ในครอบครัว จะมีอาการแขนขาชา เกร็งตามแขนขา ตามัว มองเห็นภาพซ้อน พูดไม่ได้ ปากเบี้ยว หรือกลืนไม่ได้ร่วมด้วย บางรายอาจปวดหัว เวียนหัวบ้านหมุน หรือมีอาการสับสนก่อนมีอาการอัมพาตตามมา มักมีอาการที่ซีกใดซีกหนึ่งของร่างกายเพียงซีกเดียว 2. โรคหลอดเลือดอุดตัน ที่เกิดจากลิ่มเลือดลอยไปอุดตันที่หลอดเลือดสมอง จะมีอาการเหมือนข้อแรก ผู้ป่วยอาจมีประวัติเป็นโรคหัวใจหรือเคยผ่าตัดหัวใจมาก่อน 3. หลอดเลือดสมองแตก มักเกิดโดยไม่มีสิ่งบอกเหตุ บางรายอาจเกิดขณะทำงานออกแรงมาก หรือขณะมีเพศสัมพันธ์…

  • บางครั้งการอยู่..ก็ไม่แน่ใจว่าดีกว่าตาย

    บางครั้งการอยู่..ก็ไม่แน่ใจว่าดีกว่าตาย

    บางครั้งการอยู่..ก็ไม่แน่ใจว่าดีกว่าตาย ที่จั่วหัวไว้เช่นนี้ เพราะจะพูดถึงการเจ็บป่วยเป็นเวลานาน ๆ ค่ะ ยิ่งหากผู้ป่วยเป็นอัมพาตขยับเขยื้อนตัวเองไม่ได้แล้ว ก็เหมือนติดคุกอยู่ในร่างกายของตนเอง ไม่สามารถไปไหนได้เอง ทรมานมากเพราะไม่ว่าสิ่งมีชีวิตชนิดไหนก็ต้องการความเป็นอิสระทั้งสิ้น ปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยเลยที่มีชีวิตอยู่ในภาพที่ต้องนอนอยู่กับเตียงทั้งวันแบบนี้ ทั้งยังถูกควบคุมชีวิตด้วยมือผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการกินอยู่ การนอนหลับ การเคลื่อนไหว การขับถ่าย ไม่สามารถกำหนดชีวิตตัวเองได้ ไม่ว่าจะหิว อิ่ม เมื่อย คัน หนาว ร้อน หรือแม้แต่อยากตายให้พ้นก็ยังทำเองไม่ได้ ส่วนมากแล้วลูกหลานนั่นเองที่แสดงความกตัญญูด้วยการยืดชีวิตไว้ แต่หากตัวเองต้องโดนพันธนาการแบบนี้บ้าง แทบร้อยละร้อยก็บอกว่าไม่อยากอยู่อย่างทรมานเช่นนี้ อยากจากไปอย่างสงบยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี ยิ่งความทรมานและสภาพเวทนาที่ผู้อื่นต้องมาเห็นให้สงสารแล้วยิ่งหดหู่ไปกันใหญ่ เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่แล้นจะทานอาหารทางปากไม่ได้ ต้องให้ผ่านจมูกหรือเจาะท้องใส่ท่อเข้าไปในกระเพาะอาหาร ฉี่ไม่ได้ต้องสวนคาท่อปัสสาวะไว้ นอนนาน ๆ ก็อาจมีแผลกดทับตามปุ่มกระดูก บางรายหายใจเองไม่ได้ต้องเจาะคอหายใจ ผู้ป่วยเหล่านี้จึงเหมือนติดคุกที่มีร่างของตัวเองเป็นกรงคุมขัง ลูกหลานและญาติ ๆ นั้นมักยื้อไว้เช่นนี้เพราะความรักความกตัญญู และบางส่วนก็คิดว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้ ฯลฯ มีบางอย่างที่อยากฝากบอกญาติผู้ป่วยที่มีผู้ใหญ่หรือคนในครอบครัวอยู่ในสภาพเช่นนี้ว่า – สิ่งสำคัญของการมีชีวิตอยู่ไม่ใช่การมีลมหายใจ กินข้าวได้ หรือถ่ายได้เท่านั้น แต่รวมไปถึงการมีจิตใจ มีจิตวิญญาณและสังคมด้วย – การยืดชีวิตไว้นั้นบางครั้งก็แลกกับความทุกข์ทรมานของผู้ป่วย – ความรักความกตัญญูในช่วงแรกอาจกลายสภาพเป็นความหดหู่ ความเบื่อหน่ายท้อแท้ในเวลาต่อมาได้ – การต้องนอนแต่บนเตียง…

  • สัญญาณเตือนก่อนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต

    สัญญาณเตือนก่อนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต

    สัญญาณเตือนก่อนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือโรคหลอดเลือดสมองนั้น เกิดจากการที่สมองได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่พอเพียงจึงสูญเสียการควบคุมร่างกายไป มีสถิติพบว่ามีคนเกิดอาการเช่นนี้ถึงราว 3 ในทุกสองชั่วโมงและยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกด้วย อาการของสมองขาดเลือดชั่วคราวนั้นอาจมีเพียงอาการเดียวหรือมากกว่าก็ได้ แต่จะมีอาการที่สังเกตและจดจำได้ง่ายดังตัวย่อว่า FAST นี้ ได้แก่ Face ดูที่ใบหน้า จะเห็นว่าเวลายิ้มมุมปากข้างใดข้างหนึ่งตกลงหรือดื่มน้ำแล้วน้ำไหลออกมุมปากข้างใดข้างหนึ่งควบคุมไม่ได้ Arms ดูที่ท่อนแขน จะยกแขนข้างใดข้างหนึ่งไม่ได้ Speech ดูที่การพูด มีปัญหาทางด้านการพูดแม้แต่ประโยคง่าย ๆ ก็พูดให้คนอื่นเข้าใจไม่ได้ Time สังเกตที่เวลา หากมีอาการเหล่านี้ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลภายในสามชั่วโมง การจำหลักเหล่านี้จะสามารถสังเกตอาการที่สำคัญของโรคหลอดเลือดสมองและจะได้นำตัวเองหรือผู้ป่วยใกล้ชิดส่งแพทย์ได้ทันเวลา จะสามารถช่วยรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยได้กลับมาเป็นปกติหรือใกล้เคียงได้มากที่สุด โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพตัวเองดังนี้ 1. ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ตามส่วนสูงและโครงร่าง มีเกณฑ์อยู่ว่าผู้ใหญ่ควรมีค่าดัชนีมวลกายหรือ BMI อยู่ในช่วงระหว่าง 18.5-22.9 2. งดหรือหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสชาติหวาน มีไขมันมาก หรือเค็มจัด กินผัก ผลไม้ที่ไม่หวาน และอาหารพวกธัญพืชเพิ่มขึ้น 3. ตรวจเช็คตัวเองว่ามีความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูงหรือโรคอื่นหรือไม่แล้วควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษา 4. ออกกำลังกายในระดับปานกลางอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง สัปดาห์ละ 3-4 วันขึ้นไป 5.…

  • ปรับพฤติกรรมและการใช้ชีวิตลดโรคความดันโลหิตสูงได้

    ปรับพฤติกรรมและการใช้ชีวิตลดโรคความดันโลหิตสูงได้

    ปรับพฤติกรรมและการใช้ชีวิตลดโรคความดันโลหิตสูงได้ ในประเทศไทยเองมีผุ้ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงที่ไม่รู้ตัวว่าป่วยอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนมากเพราะไม่แสดงอาการออกมา บางรายอาจแค่มึนงง หรือปวดหัวบริเวณท้ายทอย จึงไม่ไปตรวจรับการรักษา เมื่อเป็นนาน ๆ เข้า หลอดเลือดแดงในร่างกายจึงแข็งตัวและตีบตัน เลือดจึงไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ไม่พอ เกิดภาวะหัวใจโต ไตเสื่อม จนไตวายได้ เส้นเลือดในสมองตีบหรือแตกอาจเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิตได้ โรคนี้จึงอันตรายมากเพราะเป็นโรคแอบแฝง แต่สามารถคร่าชีวิตเราได้ทุกเมื่อ ผู้ใหญ่ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งประเทศไทยด้วยนั้น มีภาวะป่วยเป็นความดันโลหิตสูงถึง 1 ใน 3 คน เสียชีวิตปีละ 1.5 ล้านคนเลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อป้องกันภาวะความดันโลหิตสูง ควารดูแลตนเองด้วยหลัก 3 ข้อดังต่อไปนี้ 1. รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน อย่าให้อ้วนเกินไป มีค่า BMI อยู่ระหว่าง 18.5-22.9 2. เลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย รสชาติพอดีไม่ปรุงแต่งมากเกินไปจนเค็ม หวานหรือมัน ชิมอาหารก่อนปรุงทุกครั้ง ทานผักและผลไม้ที่ไม่หวานให้มากขึ้น เลือกอบายมุขทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และน้ำหวานน้ำอัดลมต่าง ๆ ด้วย 3. หมั่นขยับเขยื้อนร่างกายเสมอ…