Category: มะเร็ง

  • 9 โรคใหม่มีสาเหตุจากบุหรี่ !!!

    9 โรคใหม่มีสาเหตุจากบุหรี่ !!!

    9 โรคใหม่มีสาเหตุจากบุหรี่ !!! ในโอกาสครบรอบห้าสิบปีของการประกาศว่า การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุสำคัญของ โรคมะเร็งปอด และโรคเรื้อรังอื่น ๆ ล่าสุดมีการรับรองว่า 9 โรคใหม่ ที่เกิดจากการสูบบุหรี่ หรือได้รับควันบุหรี่มือสองจากผู้อื่นได้แก่ 1. มะเร็งตับ 2. มะเร็งลำไส้ 3. วัณโรค ทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นวัณโรคมากขึ้น เสียชีวิตมากขึ้นและกลับมาเป็นซ้ำมากขึ้นด้วย 4. เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานถึงร้อยละ 30-40 เทียบกับผู้ที่ไม่สูบ 5. จอประสาทตาเสื่อมซึ่งจะสัมพันธ์กับอายุที่เพิ่มขึ้น 6. เพดานปากแหว่งตั้งแต่เกิด ในแม่ที่สูบบุหรี่ 7. ตั้งครรภ์นอกมดลูก 8. โรคข้อรูมาตอยด์และภาวะภูมิต้านทานร่างกายลดลง 9. โรคเส้นเลือดในสมองตีบหรือโรคเส้นเลือดในสมองแตกจากการได้รับควันบุหรี่มือสอง ซึ่งรายงานฉบับนี้มีความสำคัญมากต่อประเทศไทย เพราะโรคมะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ เป็นโรคมะเร็งที่ชายไทยเป็นมากที่สุด ในขณะที่เบาหวานและวัณโรคก็เป็นโรคที่คนไทยเพิ่มจำนวนมากขึ้น เป็นผลมากจากการสูบบุหรี่ของชายไทยที่สูงขึ้น งานนี้นอกจากผู้สูบบุหรี่ต้องรักษาสุขภาพของตัวเองแล้ว งานควบคุมยาสูบในประเทศไทยก็ยังต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมทั้งรัฐบาลอย่างจริงจังในการควบคุมด้วย

  • ออกกำลังกายพัฒนาสุขภาพ บรรเทาโรคต่าง ๆ ได้

    ออกกำลังกายพัฒนาสุขภาพ บรรเทาโรคต่าง ๆ ได้

    ออกกำลังกายพัฒนาสุขภาพ บรรเทาโรคต่าง ๆ ได้ การหาเวลาการออกกำลังกายวันละ 30 นาที เพียงแต่สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ยังผลให้สุขภาพกายเราดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ช่วยต่อต้านโรคภัยได้หลากหลาย ซึ่งการออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณดังต่อไปนี้ 1. ช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกายออกทางรูขุมขนซึ่งก็คือเหงื่อนั่นเอง ช่วยลดสารพิษตกค้างในร่างกายด้วย 2. ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น กว่าร้อยละ 70 ของคนที่ออกกำลังกายจะนอนหลับได้สนิทกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกายเลย ทั้งนี้ควรออกกำลังกายก่อนเวลา 3 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยค่ะ 3. ช่วยเสริมสร้างความจำ ทำให้ความจำดีขึ้น กระตุ้นความคิดและทำให้สุขภาพจิตดี ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์และโรคทางจิตเวชอื่น ๆ ได้ 4. ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น ลดเวลาการย่อยลง ลดความเจ็บปวดจากโรคริดสีดวงทวารและลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ดี ส่งเสริมให้หลอดเลือดและหัวใจทำงานได้มากขึ้น เพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหารด้วย 5. ทำให้มีสุขภาพจิตทีดี ลดความเครียด บรรเทาอาการซึมเศร้าและความวิตกกังวลต่าง ๆ ลดความคิดในการฆ่าตัวตายได้ 6. ช่วยให้กระดูกแข็งแรง มวลกระดูกเพิ่มขึ้นและหนาแน่นขึ้น ลดความเจ็บปวดจากหลังได้ร้อยละ 80 กระตุ้นการทำงานของกระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกรานและกล้ามเนื้อโดยรอบ ช่วยขับของเสียออกจากล้ามเนื้อและกระดูกให้มีความแข็งแรงมากขึ้นได้ 7. ป้องกันโรคหวัด ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวทำงานต่อสู้กับเชื้อโรคได้รวดเร็วและตอบสนองได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงติดโรคเรื้อรังได้…

  • ประโยชน์ 14 ข้อจากการออกกำลังกาย

    ประโยชน์ 14 ข้อจากการออกกำลังกาย

    ประโยชน์ 14 ข้อจากการออกกำลังกาย 1. ลดความเจ็บปวดของร่างกายลงได้หากเกิดอุบัติเหตุหรือความเจ็บป่วย เพราะข้อต่อ กล้ามเนื้อต่าง ๆ จะมีความแข็งแรง จึงทำให้ได้รับผลกระทบจากความเจ็บป่วยหรือเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ ได้น้อยลง 2. ภูมิใจในรูปร่างที่เซ็กซี่ของตนเอง มีความมั่นใจมากขึ้น ทำให้รู้สึกดีต่อตัวเองมากขึ้น ช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศให้มากขึ้นด้วย 3. การออกกำลังกายลดการอักเสบในช่องปากได้ จึงมีปัญหาโรคปริทันต์น้อยลงด้วย 4. ช่วยปลอดปล่อยพลังงานสะสมในร่างกายออกมา ลดอาการอ่อนเพลีย เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า อารมณ์ดีขึ้น 5. ลดปริมาณไขมันที่เกิดขึ้นจากความเครียด หรือน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นจากความวิตกกังวล 6. ลดความเสี่ยงในการเป็นหวัดลงได้ถึงร้อยละ 33 สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้มากขึ้น 7. บำรุงสายตาได้ด้วยนะ ลดภาวะจุดรับภาพเสื่อมที่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุได้ถึงร้อยละ 70 แต่ระหว่างกายออกกำลังกายกลางแจ้งควรสวมแว่นกันรังสียูวีไว้ด้วยล่ะ 8. ช่วยให้นอนหลับได้ลึกขึ้น ยาวนานขึ้น นอนหลับสนิทขึ้น สุขภาพคุณจึงดีขึ้นหลายส่วน 9. แม้แต่การเดินก็ยังช่วยให้คุณห่างไกลโรคเบาหวานได้อีกหลายก้าวแล้ว 10. การออกกำลังกายช่วยลดไขมันรอบเอว ลดแก๊สในร่างกาย กระตุ้นการหดเกร็งของกล้ามเนื้อลำไส้ ป้องกันอาการท้องผูก ท้องเฟ้อ เร่งให้กระบวนการย่อยอาหารเร็วขึ้น 11. ทำให้สมองสดใสขึ้น มีความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ลดลง ป้องกันภาวะสมองตื้นสร้างกล้ามเนื้อให้สมองของตนเองได้…

  • ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน

    ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน

    ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่มักเป็นตลอดชีวิต หากปล่อยปละละเลยหรือขาดการดูแล ก็อาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงจนรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ รวมไปถึงอาจเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่จะค่อย ๆ ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายเสื่อมสภาพลงจนเกิดโรคแทรกซ้อนได้ทุกระบบ ซึ่งได้แก่ – หลอดเลือดแดงทั้งเล็กและใหญ่ทั่วร่างกายแข็งและตีบ ทำให้อวัยวะต่าง ๆ เกิดความเสื่อมได้ เช่น จอประสาทตาเสื่อม ตามัว ตาบอด ไตวายเรื้อรัง ประสาทเสื้อ ทำให้มีอาการชาปลายมือปลายเท้า ท้องเดินหรือท้องผูก – โรคกระเพาะอาหารเรื้อรัง – หน้าซีดเป็นลมเวลาลุกขึ้นยืน – องคชาตไม่แข็งตัว – หลอดเลือดหัวใจตีบ ทำให้หัวใจวายเสียชีวิตได้ – อัมพาต – ความจำเสื่อม – ติดเชื้อได้ง่าย เพราะเบาหวานทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง และอาจติดเชื้อซ้ำซาก เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ช่องคลอดอักเสบ โรคเชื้อราที่ผิวหนัง ฝี พุพอง – การติดเชื้อรุนแรง เช่น กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน ปอดอักเสบ วัณโรค –…

  • “ลุง สัมฤทธิ์ เรืองแสง” อายุ 78 ปี ป่วยเป็น มะเร็งที่โพรงจมูก

    “ลุง สัมฤทธิ์ เรืองแสง” อายุ 78 ปี ป่วยเป็น มะเร็งที่โพรงจมูก

    “ลุง สัมฤทธิ์ เรืองแสง” อายุ 78 ปี ป่วยเป็น มะเร็งที่โพรงจมูก เมื่อวันที่ 25 สค. 57 จาก Facebook คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้มีการเข้าไปช่วยเหลือคุณลุงสัมฤทธิ์ ที่ป่วยเป็นมะเร็งที่โพรงจมูก ซึ่งตอนนี้เซลล์มะเร็งก็ได้กัดกินเนื้อที่ใบหน้าไปอย่างมาก น่าสงสารมากๆ สำหรับคนที่ต้องการช่วยเหลือคุณลุง สามารถช่วยกันบริจาคได้ตามบัญชีที่คุณบิณฑ์ให้ไว้ได้เลยค่ะ ^__^ “สวัสดีครับเพื่อนๆ..ตอนนี้ผมอยู่กับลุงสัมฤทธิ์ เรืองแสง อายุ 78 ปี ลุงป่วยเป็นมะเร็งที่โพรงจมูก เมื่อกันยาปี 56 ลุงก็รักษามาตลอดที่ รพ จุฬา ใช้บัตร 30บาท รักษาอยู่ ลุงอยู่กับลูกสาวอายุ 48ปี คอยดูแลลุง แต่แผลของลุงมีกลิ่นเหม็นมากและยังมีการเน่าอยู่ข้างใน ลุงบอกพรุ่งจะไปหาหมอยังไม่มีค่ารถเลย อาชีพก็ไม่มี เมื่อก่อนยังหาทำโน้นทำนี่ได้ พอป่วยขึ้นมาก็หมดเลย ได้เงินผู้สูงอายุเดือนล่ะ 700 บาท ก็พอเลี้ยงตัวแต่ลูกก็รับจ้างทำงานเป็นบางวัน วันละ 300บาท วันนี้ผมเข้าไปหามา ที่บ้านลุงก็จะพังอยู่แล้ว เช่าเขาเดือนล่ะ 1,700…

  • สัญญาณอันตรายที่บอกว่าคุณอาจเป็นโรคมะเร็ง

    สัญญาณอันตรายที่บอกว่าคุณอาจเป็นโรคมะเร็ง

    สัญญาณอันตรายที่บอกว่าคุณอาจเป็นโรคมะเร็ง นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นคนมา สถิติคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับที่หนึ่ง แล้วก็ยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากทุกปีด้วย แม้บางคนจะเชื่อว่าโรคนี้เป็นโรคกรรมเวรอะไรก็ไม่รู้ได้ แต่ความจริงแล้วโรคนี้มีบ่อเกิดมาจากการพฤติกรรมของตนเองทั้งสิ้น หากไม่อยากเป็นมะเร็งแล้ว กระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำให้ปฏิบัติตัวดังนี้คือ หมั่นออกกำลังหายเป็นประจำ ทำจิตใจให้สบาย สดใสเสมอ ทานผักและผลไม้สดให้มาก รับประทานอาหารให้มีความหลากหลาย และพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายทุกปี นอกจากนี้ยังควรงดเว้นพฤติกรรมที่อาจทำให้เป็นบ่อเกิดของมะเร็งด้วย ได้แก่การงดเว้นการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา มั่วเซ็กซ์ ไม่ออกแดดจัด และไม่กินปลาน้ำจืด หอย หรือสัตว์น้ำจืดดิบ ๆ ด้วย ควรสังเกตความผิดปกติของร่างกายตัวเองไว้ หากมีสัญญาเตือนอย่างใดอย่างหนึ่งในเจ็ดข้อนี้แล้วควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจให้ละเอียด หากพบว่าเป็นมะเร็งจะสามารถตรวจรักษาหายได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ 1. มีการขับถ่ายที่ผิดปกติหรือเปลี่ยนแปรไปจากเดิม 2. เป็นแผลไม่ยอมหาย 3. ร่างกายมีตุ่ม มีก้อน ขึ้นมา 4. กลืนอาหารไม่ได้หรือกลืนได้ลำบาก 5. ตามทวารต่างๆ มีเลือดไหลออกมา 6. ไฝหรือหูดที่มีอยู่เดิม มีลักษณะเปลี่ยนไป 7. เสียงแหบเรื้อรัง ไอไม่ยอมหาย คนเราทุกคนนั้นมีเซลล์มะเร็งอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นมาได้เมื่อไร หากเมื่อใดที่ร่างกายแข็งแรงพอ เซลล์มะเร็งก็จะถูกทำลายไปเอง การเป็นมะเร็งนั้นจึงเป็นสัญญาณเตือนบอกว่าคน ๆ…

  • “ขมิ้นชัน” สมุนไพรป้องกันมะเร็ง

    “ขมิ้นชัน” สมุนไพรป้องกันมะเร็ง

    “ขมิ้นชัน” สมุนไพรป้องกันมะเร็ง ในขณะที่ความสะดวกสบายทันสมัยของโลกกำลังก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อย ๆ โรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็งกลับกลายเป็นภัยคุกคามมนุษยชาติ มากยิ่งกว่าในยุคไหน ๆ แต่อย่างไรก็ดี ยังโชคดีที่คนไทยเรายังมีสมุนไพรอยู่ชนิดหนึ่ง ที่หาทานได้ง่าย และเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่ใช้กันมาช้านานที่อาจจะเป็นความหวังใหม่ในการรักษาโรคมะเร็ง สมุนไพรชนิดนั้นก็คือ “ขมิ้นชัน” นั่นเองค่ะ ขมิ้นชันมีสารที่ช่วยยับยั้งการสร้างหลอดเลือดใหม่ที่ไปหล่อเลี้ยงเซลล์มะเร็ง ช่วยยับยั้งการแบ่งตัว และทำให้กลไกที่ทำให้เซลล์ตายเป็นปกติ จึงช่วยหยุดยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างภูมิต้านทานให้กับผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยคีโม ทำให้การฉายรังสีมีประสิทธิภาพดีขึ้น โดยขมิ้นชันช่วยให้เซลล์มะเร็งไวต่อการฉายรังสี และช่วยป้องกันเซลล์ปกติมิให้ถูกรังสีทำลายได้ในเวลาเดียวกัน อีกทั้งการกินขมิ้นชันยังไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีความเป็นพิษต่อร่างกายอีกด้วย แต่ขมิ้นชันเองก็ต้องมีข้อควรระวังในการใช้งานเช่นกัน 1. ผู้ป่วยที่มีอาการท่อน้ำดีอุดตันไม่ควรกินขมิ้นชัน เพราะอาจทำให้น้ำดีหลั่งออกมาแล้วตกตะกอนในถุงน้ำดี ยิ่งทำให้อุดตันมากขึ้นและปวดขึ้นด้วย แต่หากเป็นคนปกติทานจะกระตุ้นการหลั่งน้ำดีป้องกันการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้ 2. ผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือดเช่น ยาวาร์ฟาริน จะเสริมฤทธิ์กันทำให้เลือดออกมากกว่าเดิม จึงไม่ควรทานขมิ้นชัน อย่างไรก็ดี ขมิ้นชันก็ไม่ใช่ยารักษาโรคมะเร็ง ไม่พบความเป็นพิษและสามารถปลูกได้ทั่วประเทศ แม้จะทานเข้าไปก็ไม่ก่อให้เกิดผลเสีย หากคนไทยหันมากินขมิ้นชันมากขึ้นก็จะช่วยต้านทานการก่อกำเนิดของเซลล์มะเร็งได้ จึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายในระยะยาว  

  • ผู้หญิงวัยทอง อ้วนง่ายขึ้นนะจ๊ะ

    ผู้หญิงวัยทอง อ้วนง่ายขึ้นนะจ๊ะ

    ผู้หญิงวัยทอง อ้วนง่ายขึ้นนะจ๊ะ ในผู้หญิงวัยทองเมื่อฮอร์โมนหมดไปแล้วจะมีอาการหงุดหงิดได้ง่าย อารมณ์แปรปรวน นอนไม่หลับและใจสั่น ซึ่งอาการก็ไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่สิ่งที่รุนแรงกว่าคือโรคเรื้อรังที่เกิดจากวัยหมดประจำเดือน เกิดจากความชราภาพของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายตามกระบวนการธรรมชาติ ซึ่งฮอร์โมนก็เป็นส่วนหนึ่งด้วย หากร่างกายมีภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน ความเสี่ยงก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีกที่จะเป็นโรคความดันโลหิต เบาหวาน ไขมันเลือด โรคมะเร็ง โรคหัวใจขาดเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาตได้ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วย ในช่วงวัยหมดประจำเดือนจึงต้องเป็นช่วงเวลาที่ควบคุมการเพิ่มของน้ำหนักอย่างเข้มงวด เพราะเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุของโรคร้ายแรงที่อาจคร่าชีวิตก่อนวัยอันควรได้ ในวัยอื่นนั้น ปัจจัยที่ทำให้ร่างกายมีความอ้วนน้ำหนักเกินขึ้นอยู่กับการทานอาหารเป็นสำคัญ แต่ในวัยหมดประจำเดือน บางครั้งแม้จะควบคุมอาหารอย่างเต็มที่แล้วก็ยังไม่สามารถควบคุมน้ำหนักไว้ได้ ซึ่งทางที่ดีที่สุดก็คือควรควบคุมไว้ตั้งแต่วัยก่อนหมดประจำเดือน ในสังคมคนเมืองปัจจุบันนี้อาหารการกินกลับเริ่มแย่ลง คนเรากินอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีไขมันสูง ไม่มีคุณค่าทางอาหารมากขึ้น ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนได้ง่าย จริงอยู่ว่าเราอาจไม่สามารถทำอาหารทานเองได้ทุกมื้อ แต่เป็นไปได้ก็ควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ มีไขมันต่ำ มีรสหวานน้อย ๆ เค็มน้อย ๆ แล้วทานผักผลไม้ให้มากขึ้น ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้ตั้งแต่วัยก่อนหมดประจำเดือน ในส่วนของการออกกำลังกาย อย่างน้อยที่สุดควรให้ร่างกายได้ออกกำลังกายบ้าง แต่ละวันให้มีเวลาเดินเล่นอย่างน้อย 30-60 นาที จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นมาก ควรเดินในเวลาที่มีแดดอ่อน ๆ อย่างช่วงเช้า ช่วงเย็น การตากแดดอ่อน ๆ จะช่วยให้ผิวหนังได้รับวิตามินดี ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย เพราะเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันรุดหน้าไปมาก…

  • ไวรัสตับอักเสบซี อันตราย แต่ป้องกันได้ถ้าเข้าใจ

    ไวรัสตับอักเสบซี อันตราย แต่ป้องกันได้ถ้าเข้าใจ

    ไวรัสตับอักเสบซี อันตราย แต่ป้องกันได้ถ้าเข้าใจ ไวรัสตับอักเสบซี เป็นเชื้อไวรัสที่ค้นพบมาเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว ทำให้ตับอักเสบได้แบบเฉียบพลันและเรื้อรัง ทำให้เกิดเป็นตับแข็งและมะเร็งตับได้ เป็นเชื้อไวรัสตับอักเสบที่รุนแรงมากกว่าเชื้อชนิดอื่น ไม่มีวัคซีนป้องกัน ทำได้เพียงให้ยาลดไวรัสและป้องกันการเกิดมะเร็งตับเท่านั้น โรคนี้สามารถติดต่อได้ทางเลือดและผลิตภัณฑ์ทางเลือดทุกชนิด โดยเฉพาะหากเคยได้รับมาก่อนปี 2535 ติดต่อได้ทางเข็มฉีดยา ทางการสักหรือเจาะหูด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน การฟอกไต การสักตัว สักคิ้ว สักขอบตา อุปกรณ์เสริมสวยไม่ว่าจะเป็นการทำผม ทำเล็บที่ใช้มีดโกน กรรไกร เป็นต้น การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซี ในผู้ที่เป็นตับอักเสบเฉียบพลัน เนื่องจากโรคนี้ผู้ป่วยมักไม่ค่อยแสดงอาการ จึงไม่มีการรักษาใด ๆ เป็นเพียงการดูแลตามอาการเท่านั้น ไม่นอนดึกและหลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง แต่ในผู้ที่เป็นตับอักเสบเรื้อรังนั้น มียาที่ใช้เป็นมาตรฐานในการรักษาอยู่สองตัวร่วมกันก็คือ ยาฉีดในกลุ่มอินเตอร์เฟอรอนกับยาไรบาไวริน ซึ่งเป็นยากิน ทั้งสองชนิดช่วยกำจัดไวรัสให้หมดไปและไม่เป็นซ้ำอีกมีผลถึงร้อยละ 50 ในส่วนของการป้องกันไวรัสตับอักเสบซีนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อทุกอย่าง เช่น การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ไม่เข้าร้านสัก เจาะ หรือทำผมทำเล็บที่ไม่ได้มาตรฐาน ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ รวมไปถึงการดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรงไว้อย่างสม่ำเสมอด้วย  

  • ทานเนื้อสัตว์แปรรูปมาก ๆ อาจเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง

    ทานเนื้อสัตว์แปรรูปมาก ๆ อาจเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง

    ทานเนื้อสัตว์แปรรูปมาก ๆ อาจเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ไส้กรอก หมูแฮม เบคอน เป็นอาหารที่ซื้อหาทานได้ง่าย และหลาย ๆ คนก็ชอบด้วย เพราะหาซื้อง่าย กินก็อร่อย แต่รู้กันบ้างหรือเปล่าคะว่า สารโซเดียมไนไตรท์ ที่ผสมอยู่ในอาหารเหล่านี้นั้นหากทานมากเกินไป จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้ โซเดียมไนไตรท์นี้ จะผสมอยู่ในอาหารแปรรูปจำพวกไส้กรอก แฮม เบคอน แหนม กุนเชียง ไส้กรอกเปรี้ยว มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว คล้ายน้ำตาลทราย ผสมลงไปเพื่อให้คงสภาพของสีสันและกลิ่นของไส้กรอกไว้ได้นาน ๆ หากได้รับสารนี้ในปริมาณมากก็จะเป็นอันตรายได้ เมื่อสารชนิดนี้ทำปฏิกิริยาเคมีกับเนื้อสัตว์อาจทำให้เกิดโรคชนิดเฉียบพลัน และโรคเรื้อรังเช่นมะเร็งได้ เมื่อเราทานอาหารเหล่านี้ลงไป ไนไตรท์จะทำปฏิกิริยาในร่างกายเกิดเป็นกรดไนตรัสขึ้นมา เมื่อเราทานโปรตีนลงไปจะทำปฏิกิริยากับโปรตีน เกิดเป็นไนโตรซามีน ซึ่งไนโตรซามีนนี่ล่ะค่ะเป็นสารก่อเกิดมะเร็ง หากเราทานอาหารที่มีไนไตรท์สะสมไว้นาน ๆ สารนี้ก็จะทำปฏิกิริยาภายในร่างกายเราไปเรื่อย ๆ เราจึงมีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ นั่นเอง แต่ก็มิใช่ว่าจะไม่สามารถทานอาหารเหล่านี้ได้เลย เพียงแต่เลือกทานน้อย ๆ และนาน ๆ ทานทีหนึ่งก็พอ ควรทานเนื้อสัตว์ที่นำมาปรุงสุกแบบสดๆ ใหม่ ๆ ดีกว่า เพราะจะไม่เกิดสารพิษตกค้างในร่างกายมากเท่าอาหารแปรรูป และควรเลือกทานอาหารให้หลากหลายมากขึ้น เพิ่มสัดส่วนของผักและผลไม้เข้าไป…