Category: นิ่ว
-
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน
—
by
in กระเพาะ, ข่าวสุขภาพ, ความจำเสื่อม, ต้อหิน, ท้องผูก, นิ่ว, ปอด, มะเร็ง, มะเร็งตับ, วัณโรค, หลอดเลือดหัวใจ, หัวใจ, ไตภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่มักเป็นตลอดชีวิต หากปล่อยปละละเลยหรือขาดการดูแล ก็อาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงจนรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ รวมไปถึงอาจเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่จะค่อย ๆ ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายเสื่อมสภาพลงจนเกิดโรคแทรกซ้อนได้ทุกระบบ ซึ่งได้แก่ – หลอดเลือดแดงทั้งเล็กและใหญ่ทั่วร่างกายแข็งและตีบ ทำให้อวัยวะต่าง ๆ เกิดความเสื่อมได้ เช่น จอประสาทตาเสื่อม ตามัว ตาบอด ไตวายเรื้อรัง ประสาทเสื้อ ทำให้มีอาการชาปลายมือปลายเท้า ท้องเดินหรือท้องผูก – โรคกระเพาะอาหารเรื้อรัง – หน้าซีดเป็นลมเวลาลุกขึ้นยืน – องคชาตไม่แข็งตัว – หลอดเลือดหัวใจตีบ ทำให้หัวใจวายเสียชีวิตได้ – อัมพาต – ความจำเสื่อม – ติดเชื้อได้ง่าย เพราะเบาหวานทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง และอาจติดเชื้อซ้ำซาก เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ช่องคลอดอักเสบ โรคเชื้อราที่ผิวหนัง ฝี พุพอง – การติดเชื้อรุนแรง เช่น กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน ปอดอักเสบ วัณโรค –…
-
วิธีป้องกันการกลับมาเป็นนิ่วในไตซ้ำอีกหน
วิธีป้องกันการกลับมาเป็นนิ่วในไตซ้ำอีกหน สำหรับผู้ที่เคยเป็นโรคนิ่วในไตมาก่อนแล้ว คงจำความเจ็บปวดและความยากลำบากนั้นได้ หากไม่อยากกลับมาเป็นนิ่วในไตอีกหน ควรปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้ค่ะ 1. ดื่มน้ำให้มาก ให้ได้วันละสองลิตรหรือประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อลดความเข้มข้นและความอิ่มตัวของสารก่อนิ่วในปัสสาวะ และลดโอกาสนการก่อผลึกนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ 2. เลี่ยงการดื่มกาแฟเข้มข้น เพราะจะทำให้ปัสสาวะมีแคลเซียมสูงขึ้น 3. ผู้ป่วยที่มีนิ่วแบบแคลเซียมควรงดอาการเค็มที่มีเกลือโซเดียม เนื่องจากมีผลต่อการขับแคลเซียม 4. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ ไวน์ ฯลฯ ซึ่งจะทำให้ปัสสาวะมากเกินไปจนอาจขาดน้ำ 5. งดอาหารที่มีพิวรีนสูง อย่างสัตว์ปีก เครื่องใส ถั่ว โปรตีนจากเนื้อสัตว์ เพราะจะเพิ่มการขับแคลเซียม กรดออกซาเลตและยูริกออกมาในปัสสาวะ 6. งดอาหารที่มีสารออกซาเลตสูง ๆ ด้วย ได้แก่ ใบยอ ชะพลู ผักขม ช็อกโกแลต ถั่ว ชา ฯลฯ 7. ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อระบายความเครียด จะป้องกันการเกิดนิ่วในไตซำได้ หากออกกำลังกายจนสูญเสียเหงื่อมากต้องดื่มน้ำชดเชยให้พอเพียง 8. ผู้ที่ทำงานหนักในที่มีอากาศร้อนก็ควรต้องดื่มน้ำชดเชยเช่นกัน และต้องดื่มน้ำประจำทั้งวันด้วย สำหรับผู้ที่สงสัยว่าตนเองจะมีอาการของนิ่วในไตหรือเปล่า ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาและหาวิธีรักษาและป้องกันร่วมกัน…
-
ความรู้ทางยาจาก “หอยแครง”
ความรู้ทางยาจาก “หอยแครง” หอยแครงเป็นยาชนิดหนึ่งนะคะ แต่เป็นยาในตำราแพทย์แผนไทยค่ะ จัดอยู่ในเปลือกหอย 9 เวลานำมาปรุงยาจะนำไปเผาไฟให้สุกจะได้ปูนหอย ซึ่งมีฤทธิ์ในการรักษาอาการเจ็บป่วยได้ดังต่อไปนี้ค่ะ – ลดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยขับลม และบรรเทาอาการจุกเสียดในช่องท้อง – ช่วยให้ระบายแก๊สได้ดี ทำให้เรอได้ – ช่วยล้างลำไส้ – แก้กระษัยนิ่ว ขับนิ่ว ขับปัสสาวะ – บำรุงไตพิการ – บำรุงกระดูก – ใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่น ๆ เพื่อรักษากระษัย หรือ ปวดท้องน้อยเป็นกำลัง – หากใช้ร่วมกับพืชและหอยชนิดอื่นๆ จะช่วยขับพยาธิได้ด้วย – รักษากระษัยจุก ด้วยการขับลม ล้างลำไส้ ขับปัสสาวะ แก้ท้องร่วง และสมานลำไส้ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นคือการนำเปลือกหอยไปปรุงยาแล้วนำมาทานเท่านั้น การปรุงยาก็จำเป็นต้องอาศัยแพทย์แผนไทยที่มีความรู้นะคะ อย่าเพิ่งไปลองทำเองค่ะ
-
มาลองดูกันว่าหากมีอาการปวดท้อง 9 แห่งนี้จะบ่งบอกอะไรได้บ้าง?
มาลองดูกันว่าหากมีอาการปวดท้อง 9 แห่งนี้จะบ่งบอกอะไรได้บ้าง? แม้จะเป็นอาการปวดท้องเหมือนกัน แต่เพียงห่างกันไม่มาก อาการของโรคหรือสาเหตุก็แตกต่างกันไปแล้ว ดังนั้นเพื่อการวิเคราะห์ในเบื้องต้นให้ถูกต้อง ต้องมาสังเกตบริเวณที่ปวดให้ละเอียดขึ้นดังต่อไปนี้ 1. หากมีอาการปวดบริเวณชายโครงขวา ซึ่งเป็นจุดของถุงน้ำดีและตับ หากกดแล้วมีก้อนแข็ง ปวดมาก กับอาการตัวเหลืองตาเหลือง ก็คือ ตับและถุงน้ำดีมีปัญหา ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน 2. หากมีอาการปวดบบริเวณใต้ลิ้นปี่บริเวณกลางลำตัว หรือซี่โครงซี่กลางสุด หากปวดเป็นประจำเวลาหิวหรืออิ่ม อาจเป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร หากปวดรุนแรงและคลื่นไส้อาเจียนด้วย อาจมีปัญหากับตับอ่อน และหากคลำพบก้อนเนื้อแข็งและใหญ่ ควรรีบไปพบแพทย์เพราะอาจเกี่ยวข้องกับตับ และหากคลำพบก้อนสามเหลี่ยงแบน ๆ เล็ก ๆ ก็คือกระดูกลิ้นปี่ ควรปรึกษาแพทย์เช่นกัน 3. หากปวดบริเวณชายโครงซ้าย ควรรีบไปพบแพทย์เพราะอาจมีอาการเกี่ยวกับม้าม 4. หากมีอาการปวดเอวด้านขวา ถ้าปวดมากอาจหมายถึงลำไส้ใหญ่อักเสบ หากปวดจนถึงต้นขา อาจเริ่มต้นเป็นนิ่วในท่อไตได้ และหากปวดพร้อมกับมีไข้หนาวสั่น และปัสสาวะขุ่นด้วย อาจพบเป็นกรวยไตอักเสบ ควรพบแพทย์ด่วน รวมไปถึงหากคลำเจอก้อนเนื้อด้วย 5. หากปวดรอบสะดือมักจะมีปัญหาท้องเดิน เพราะเป็นตำแหน่งของลำไส้เล็ก แต่หากกดแล้วเจ็บมากควรรีบไปพบแพทย์เพราะคุณอาจไส้ติ่งอักเสบ และถ้าปวดแล้วมีลมในกระเพาะด้วย อาจเป็นแค่โรคกระเพาะ หรือลำไส้ทำงานมากผิดปกติได้ 6. หากปวดเอวด้านซ้าย จะเหมือนข้อ…