Category: เบาหวาน
-
ยอมรับความเสื่อมของร่างกายตามกาลเวลา
ยอมรับความเสื่อมของร่างกายตามกาลเวลา เมื่ออายุยิ่งมากขึ้นเท่าไร การดูแลสุขภาพก็ยิ่งเป็นเรื่องจำเป็นมากขึ้นเท่านั้น หากจะเปรียบไปแล้วร่างกายของคนก็เหมือนกับรถที่เก่าลงทุกปี จำเป็นต้องเข้าอู่เพื่อตรวจเช็คสภาพ บำรุงรักษาอยู่เนือง ๆ ร่างกายเราเมื่ออายุมากขึ้นก็ย่อมมีความเสื่อมโทรมลงเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะส่วนใดก็หลีกเลี่ยงความจริงข้อนี้ไปไม่ได้ ซึ่งอาการหรือโรคที่บ่งบอกว่าร่างกายเรากำลังเสื่อมโทรมเอาที่เห็นกันได้ชัด ๆ นั้นก็คือ ตาฝ้าฟาง หูตึง ปวดกล้ามเนื้อ และปวดกระดูก อ่อนเพลีย เมื่อยล้า ภูมิแพ้ชนิดต่าง ๆ รวมไปถึงโรคเรื้อรังไม่ติดต่อจำพวก เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเส้นเลือด โรคอ้วน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเกิดในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่พบได้แม้ในคนที่อายุยังน้อยอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เกิดจากวิธีการใช้ชีวิตนั่นเอง แต่คนเราก็ไม่เหมือนรถไปซะหมดทุกอย่าง เพราะคนเราก็ยังมีจิตใจ และจิตวิญญาณ ซึ่งสุขภาพของคนจะดีได้นั้นผู้ที่เป็นเจ้าของร่างกายก็จำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่ทุกสัดส่วน ร่างกายจึงจะอยู่กับเรานาน ๆ ไม่เสื่อมโทรมไว หรือเสียบ่อย ๆ แล้วก็ยังใช้การได้ดีจนสิ้นอายุขัย พึงตระหนักไว้ว่าสุขภาพของผู้ที่เข้าวัยชรานั้นเปรียบเหมือนรถเก่าก็ตรงที่ มักจะเสียง่าย ใช้งานหนักมากไม่ไหว แล้วก็ต้องเข้าอู่บ่อย สุดท้ายก็ต้องพัง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องดูแลอย่างเหมาะสม เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นก็ซ่อมแซมตามจำเป็น แต่หากมีปัญหาซับซ้อนก็ควรแยกแยะให้ออกว่าจะปล่อยไปหรือนำไปซ่อม ควรมีสติ มีความรู้ และอย่างกังวลมากเกินไป นอกจากนี้แล้วยังควรหากช่างซ่อม หรือหมอ พร้อมอู่ หรือโรงพยาบาลที่ไว้ใจได้มาดูแลด้วย ผู้สูงวัยทุกท่านจำเป็นต้องแยกแยะให้ได้ว่า อาการชนิดไหนเป็นโรคที่ไม่ต้องรักษา…
-
วิธีทานผลไม้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ
วิธีทานผลไม้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ วิธีทานผลไม้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ ในประเทศไทยนั้นเป็นประเทศในแถบเมืองร้อนที่มีผลหมากรากไม้ที่มีรสชาติอร่อยมากมาย ยิ่งในฤดูร้อนที่ผลไม้หลายชนิดพากันตกลูกแล้ว วัน ๆ เราก็คงอยากแต่จะทานผลไม้เหล่านี้กันให้อิ่มหนำไปเลย แต่ผลไม้หลายชนิดในหน้าร้อน ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียน ลำไย เงาะ ลองกอง มะม่วงสุก เหล่านี้มีน้ำตาลสูงมาก อาจทำให้อ้วนได้ อีกทั้งยังมีการใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลงระหว่างการปลูกอยู่มาก ดังนั้นเราจึงควรเรียนรู้วิธีการทานผลไม้อย่างถูกต้องเพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุดจากผลไม้โดยไม่เป็นอันตราย ดังต่อไปนี้ค่ะ 1. เมื่อซื้อผลไม้มาแล้วให้ทำการล้างให้สะอาดมาก ๆ หลาย ๆ น้ำ โดยเฉพาะผลไม้ที่ทานได้ทั้งเปลือกยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ อาจแช่น้ำทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมงแล้วล้างทิ้งเพื่อความปลอดภัย 2. ซื้อผลไม้มาทานแค่พอกินเท่านั้น อย่าซื้อมาตุนไว้เยอะ ๆ เพราะวิตามินและแร่ธาตุที่เต็มเปี่ยมจะอยู่ในผลไม้สด ๆ ยิ่งทิ้งไว้นานเท่าไรคุณค่าทางโภชนาการก็จะยิ่งลดลงไปเรื่อย ๆ อีกทั้งควรกินให้มีความหลากหลาย เปลี่ยนชนิดหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ ตามฤดูกาลเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลาย 3. สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน หรือผู้ที่เป็นโรคอ้วน ควรระมัดระวังผลไม้ที่หวานจัด โดยทานผลไม้หวานจัดเหล่านี้แค่ 1 ส่วนต่อวันเท่านั้น ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 5-6 คำ ผลไม้หวาน ๆ เหล่านี้ได้แก่ ขนุน มะม่วงสุก กล้วย…
-
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการนอนหลับของคนเรา
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการนอนหลับของคนเรา หากเป็นช่วงเวลาวันหยุดยาวหรือเทศกาลต่าง ๆ แล้ว บางคนอาจเอาแต่เที่ยวและฉลองกันยันเช้าจนมักลืมไปเลยว่าตัวเองต้องพักผ่อน แต่ไม่ว่าจะเป็นในช่วงเวลาใด การนอนก็สำคัญสำหรับร่างกายเราอยู่ดี (เค้าไม่มารู้กับเราด้วยหรอกค่ะว่า วันหยุดยาวฉันจะฉลองฉันจะไม่นอน) ยิ่งโดยเฉพาะในกลุ่มสาว ๆ ด้วยแล้ว การอดนอนทำร้ายคุณทั้งทางสุขภาพและรูปร่างหน้าตาภายนอกชนิดปกปิดไม่อยู่เลยเชียวล่ะ ดังนั้นเพื่อการดูแลสุขภาวะที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ เราลองมาอ่านเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการนอนหลับของคนเรากันนะคะ – ในช่วงเวลานอนเป็นเวลาที่ร่างกายเราผลิตโปรตีนขึ้นมา จึงก่อให้เกิดกระบวนการสร้างเซลล์ผิวและฟื้นฟูสภาพเนื้อเยื่อและเซลล์ผิวในระหว่างการนอนหลับด้วย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการอดนอนจึงทำให้ผิวดูทรุดโทรมไม่สดใส – การนอนมีผลต่อกระบวนการจำ สมาธิในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ หากอดนอนก็จะทำให้เบลอๆ งงๆ – การอดนอนยังทำให้เกิดความเสี่ยงและเกิดการกำเริบของโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคติดเชื้อต่าง ๆ ได้มากมาย – การที่ผิวแลดูเหี่ยวย่น หรือแก่ก่อนวัยนั่นเป็นเพราะหากคุณนอนไม่พอ จะทำให้ฮอร์โมนความเครียดที่หลั่งออกมามากเกินไปส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตคอลลาเจนของผิวที่จะทำงานได้ช้าลง แล้วยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อการต่อสร้างอนุมูลอิสระในร่างกายทำให้ผิวร่วงโรยก่อนวัย – รวมไปถึงหากคุณยังคงอดนอนอย่างต่อเนื่อง กระบวนการฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายจากพฤติกรรมแย่ ๆ ต่อตัวเอง และการทำร้ายจากรังสียูสี ยังไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ผิวจึงยิ่งดูแย่ลงไปกว่าเดิม – การอดนอนหรือนอนไม่พอ ยังส่งผลต่อการไหลเวียนของโลหิต ที่จะเห็นได้ชัดก็คืออาการถุงใต้ตาหรือตาบวมนั่นล่ะค่ะ – การได้นอนหลับในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะทำให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งช่วงเวลาที่ร่างกายจะมีอุณหภูมิลดลงต่ำที่สุดก็คือช่วงตีสี่ ถึงตีห้า อีกทั้งฮอร์โมนเมลาโทนินก็จะถูกหลั่งออกมาในช่วงเวลานั้นทั้งจาก เมื่อทั้งอุณหภูมิร่างกายลดลงและระดับเมลาโทนินเพิ่มขึ้นมาเจอกัน ก็จะทำให้นอนหลับได้ง่าย…
-
อาหาร 11 ชนิดที่อาจทำให้คุณแก่เร็วขึ้น!
อาหาร 11 ชนิดที่อาจทำให้คุณแก่เร็วขึ้น! ขึ้นชื่อว่าอาหารแล้ว มีทั้งอาหารที่เป็นคุณและเป็นโทษต่อร่างกายนะคะ ดังนั้นการทานอาหาร จึงใช่การสักแต่ทานเพราะเห็นว่าเป็นอาหารเท่านั้น แต่หากคุณไม่อยากแก่ และไม่อยากให้ร่างกายและอวัยวะต่าง ๆ เสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหาร 11 ชนิดดังต่อไปนี้ด้วย 1. เกลือ เพราะเกลือจะไปดูดซึมน้ำในร่างกาย ทำให้อ่อนเพลียและมีความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิต และโรคไต 2. น้ำตาล เมื่อบริโภคน้ำตาลเข้าไป จะไปจับกับคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ผิวหนังเกิดรอยเหี่ยวย่อน ทำให้ดูแก่ลง 3. น้ำตาลเทียม แม้น้ำตาลเทียมจะไม่ทำให้คุณเป็นเบาหวาน แต่ก็อาจก่อปัญหากับร่างกายได้ด้วย ทำให้เกิดอาการปวดหัว และปวดข้อ ตลอดจนอยากทานน้ำตาลจริง ๆ ขึ้นมาได้ 4. ลูกอม มีน้ำตาล น้ำเชื่อมต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบ ทำให้ร่างกายเกิดความระคายเคือง และทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย 5. น้ำอัดลม ทำให้ร่างกายขาดน้ำและรู้สึกอ่อนเพลียได้ 6. เครื่องดื่มชูกำลังต่าง ๆ ทำลายเคลือบฟัน ทำให้ฟันสึก และผุกร่อนเร็ว 7. กาแฟ ดูดซึมน้ำในร่างกาย จึงทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า…
-
อาหารต้องห้ามของ 10 โรค
—
by
in ข่าวสุขภาพ, ความดันโลหิตสูง, ตับ, ท้องผูก, ริดสีดวงทวารหนัก, สิว, หอบหืด, หัวใจ, เบาหวาน, ไข้หวัด, ไตอาหารต้องห้ามของ 10 โรค อาหารต้องห้ามหรือของแสลง ก็คืออาหารท่านเข้าไปแล้วทำให้อาการกำเริบหรือโรคที่เป็นอยู่หายช้าลง มีพื้นฐานมาจากภูมิปัญญาทางการแพทย์พื้นบ้าน รู้ไว้จะดีกว่านะคะ ..หากเป็นโรคกระเพาะ หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกกาแฟ ชาแก่ ๆ ของทอด อาหารรสเผ็ด หรือมีไขมันสูง อาจทำให้โรคหายยากขึ้น ควรทานอาหารให้ตรงเวลาและเลือกอาหารที่ย่อยง่ายดีกว่า .. หากเป็นไข้ หรือเป็นไข้หวัด เลี่ยงอาหารที่มีความเย็น ของทอด ของมัน ที่ย่อยยาก จะยิ่งทำให้ตัวร้อนขึ้น .. หากเป็นโรคความดันโลหิตสูง หลีกเลี่ยงอาหารที่ไขมัน และคอเลสเตอรอลสูง เช่น โกโก้ ไข่ปลา ไขกระดูก หมูสามชั้น สุรา แอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัดและผลไม้ที่มีความหวานอย่างขนุน ทุเรียน ลำไย ด้วย .. หากเป็นโรคตับหรือถุงน้ำดี เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอลด์ อาหารติดมัน เนื้อสัตว์ติดมัน เครื่องใน ของทอด ของหวานจั เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพของการย่อยอาหารลดลง เพิ่มภาระให้กับตับและถุงน้ำดี ..หากเป็นโรคหัวใจและโรคไต เลี่ยงอาหารที่มีความเค็ม เพราะจะทำให้การไหลเวียนของเลือดช้าลง หัวใจทำงานหนักขึ้น ไตเองก็ต้องขับเกลือมากขึ้น…
-
กินของหวาน ๆ ทำเด็กสมาธิสั้นจริงหรือ?
กินของหวาน ๆ ทำเด็กสมาธิสั้นจริงหรือ? เป็นเวลานานมาแล้วที่คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายมักจะเชื่อว่าถ้าให้ลูก ๆ ได้กินของหวาน ๆ หรือลูกกวาดต่าง ๆ มาก ๆ เด็ก ๆ จะเริ่มทำตัวไฮเปอร์ จนเหมือนเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น หรือเข้าใจว่าจะทำให้ลูกตัวเองเป็นเด็กสมาธิสั้นด้วยซ้ำไป ซึ่งความจริงแล้วเด็กทุกคนมีความซุกซนและกระตือรือร้นเป็นธรรมชาติของเราดยู่แล้ว การกระโดดโลดเต้นเล่นซนจึงเป็นเรื่องแสนธรรมดาสำหรับเด็กทุกคนนั่นเอง แต่สำหรับผู้ที่จะเป็นโรคสมาธิสั้น…
-
หลากหลายเรื่องราวเกี่ยวกับ “น้ำอัดลม”
หลากหลายเรื่องราวเกี่ยวกับ “น้ำอัดลม” แม้น้ำอัดลมจะเป็นเครื่องดื่มที่เราเห็นกันจนเจนตา และดื่มกันมากจนเจนปากก็ตาม แต่จะมีใครรู้บ้างว่าในน้ำอัดลมนั้น ให้โทษให้ประโยชน์และก่อผลกระทบอย่างไรต่อร่างกายบ้าง วันนี้มาดูกันชัด ๆ เลยค่ะ 8 ข้อ 1. แน่นอนล่ะว่าน้ำอัดลมต้องมีน้ำตาลอยู่สูงมาก เพราะเป็นสารที่ทำให้เครื่องดื่มมีความหวาน ดื่มแล้วสดชื่น แต่หารู้ไม่ว่าหากคุณดื่มทุกวัน คุณก็อาจมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานและโรคอ้วนเพราะได้รับน้ำตาลมากเกินความจำเป็น 2. ในน้ำอัดลมมีการอัดก๊าซเอาไว้ ดังนั้นการดื่มน้ำอัดลมก็จะทำให้ท้องอืด ปวดท้องแน่นท้องได้ เพราะเกิดก๊าซในกระเพาะอาหาร 3. น้ำอัดลมมีความเป็นกรดสูง ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร จะยิ่งกระตุ้นแผลและทำให้อาการแย่ลง 4. อีกทั้งกรดในน้ำอัดลมยังทำให้เคลือบฟันเสื่อม เป็นสาเหตุของฟันผุอีกด้วย 5. สำหรับผู้ที่จัดฟัน การดื่มน้ำอัดลมจะทำให้เกิดคราบบริเวณรอยต่อระหว่างเหล็กและฟัน 6. นอกจากจะทำให้อ้วน น้ำหนักเกินแล้ว การดื่มน้ำอัดลมมากเกินไปจะทำให้โพแทสเซียมในเลือดต่ำลง ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันได้ 7. ในน้ำอัดลมมีคาเฟอีน จึงทำให้ตื่นตัว แต่ก็อาจทำให้นอนไม่หลับ มีอาการใจสั่น กระทั่งปวดศีรษะได้ด้วย 8. การดื่มน้ำอัดลมทำให้กระดูกสูญเสียแคลเซียม ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคกระดูกพรุนได้
-
การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดแบบญี่ปุ่น
การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดแบบญี่ปุ่น สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานหรือผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจนอาจจะเสี่ยงเป็นเบาหวานได้นั้น วันนี้ผู้เขียนขอนำเอาคลิปเทคนิคการลดระดับน้ำตาลในเลือดของแพทย์ชาวญี่ปุ่นมาฝากกันค่ะ ซึ่งหลักการลดระดับน้ำตาลในเลือดของแพทย์ชาวญี่ปุ่นนั้น สรุปได้ว่า 1. ให้กินผักใบเขียวก่อนอาหารหลัก 2. อาหารแต่ละคำให้เคี้ยว 30 ครั้งหรือมากกว่านั้นแล้วจึงค่อยกลืน 3. หลังทานอาหารอิ่มแล้ว 1 ชั่วโมง อย่าเพิ่งเข้านอนหรือนั่งเอื่อยเฉื่อยให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเผาผลาญน้ำตาลในเลือด เช่น การเดินเล่นหรือรดน้ำต้นไม้ เป็นต้น
-
มะระ หวานเป็นลม ขมมีประโยชน์นะ
มะระ หวานเป็นลม ขมมีประโยชน์นะ ผักที่มีรสชาติขมปร่าอย่างมะระเนี่ยเป็นผักที่นำเอามาทำอาหารหลายชนิดได้อร่อยเลิศ แล้วยังมีประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็นในฐานะของอาหารหรือสรรพคุณทางยาก็มากจนเรานึไม่ถึงเลยนะคะ สำหรับมะระพันธุ์ที่เป็นที่นิยมทานในเมืองไทยก็ได้แก่ มะระขี้นก และมะระจีน ที่เป็นสายพันธ์ที่ชาวจีนนำเข้ามาในประเทศไทยนั่นเองค่ะ ผลมะระจะมีขนาดใหญ่กว่ามะระขี้นก น้ำหนักมากกว่า และมีความขมน้อยกว่าไปด้วย สาเหตุที่มะระมีความขมก็เป็นเพราะว่าในมะระมีสารที่ชื่อว่า Momodicine ซึ่งช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร และก็ช่วยให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารทำงานได้มี่ประสิทธิภาพขึ้น รสขมของมะระยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่น ๆ ได้อีก เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นท้องผูก มะระทั้งสองพันธ์นั้นสามารถนำมาประกอบอาหารได้มากมาย ราคาก็ไม่แพง ในส่วนของผู้ที่ต้องการลดความขมของมะระลงนั้นก็มีเคล็ดลับว่าให้นำมะระที่หั่นหรือซอยแล้ว ไปคลุกเกลือทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออก หรือเวลาต้มมะระยัดไส้ให้เปิดฝาหม้อไว้จนเดือดจะช่วยลดความขมของมะระได้ คุณค่าทางโภชนาการของมะระนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียมที่ช่วยการทำงานของกระดูกและฟัน ช่วยให้เลือดแข็งตัว ฟอสฟอรัสที่ช่วยประสานการทำงานกับแคลเซียม บำรุงฟัน กระดูกและสมอง กล้ามเนื้อ มีวิตามินซี ช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส มีเบต้าคาโรทีนสูง ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและปกป้องเซลล์จากการทำลายของสารก่อมะเร็งได้ด้วย ในส่วนของสรรพคุณทางยานั้นก็มีมากมายดังนี้ 1. นำใบสดมาต้มดื่มบรรเทาอาการหวัด รักษาแผลในกระเพาะอาหาร แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ลดอาการบวมหรือฟกช้ำของร่างกาย และใช้ทาแก้อาการผื่นคันได้ 2. นำเอาผลมะระสุกคั้นแต่น้ำ มาทาหน้าเพื่อแก้อาการสิวอักเสบ 3. นำผลดิบมาลวกกินกับน้ำพริก รักษาอาการปวดเข่าในผู้สูงอายุ 4. เมล็ดมะระ มีคุณสมบัติในการปรับธาตุในร่างกายให้เกิดความสมดุล 5. รากของมะระใช้ต้มน้ำดื่มแก้ไข้…
-
ชนะเบาหวานใน 6 เดือนด้วยการล้างพิษตับอ่อน สูตรที่ได้ผลจริง
ชนะเบาหวานใน 6 เดือนด้วยการล้างพิษตับอ่อน สูตรที่ได้ผลจริง ต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่อาจต้องใส่นามสมมุติไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวของคนไข้นะคะ เป็นเรื่องจริงที่เกิดผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้จนสามารถเอาชนะโรคเบาหวานได้ในเวลาเพียงแค่ 6 เดือน ที่เพียงแค่ควบคุมอาหารและกินให้ถูกต้องเท่านั้นเอง ชายหนุ่มคนนี้มีนามสมมุติว่า พิรุณ อายุ 38 ปี ชอบเล่นฟุตบอล พอหลังแล่นเหนื่อย ๆก็ชอบดื่มน้ำอัดลมขวดใหญ่ ในเวลาหนึ่งปี น้ำหนักเขาทะยานขึ้นจาก 65 กก. เป็น 75 ก.ก. แต่จะมีคนเตือนว่าเขาไม่ควรกินน้ำอัดลม และควรดูแลสุขภาพให้มากกว่านี้ ไม่ใช่แค่ออกกำลังกายแล้วกินไม่เลือกเลย เขาจึงหันมาสนใจสุขภาพมากขึ้น เขารู้ว่าการกินผักผลไม้ต้องดีกว่ากินน้ำหวานหรือน้ำอัดนมแน่ ๆ แต่ครั้นจะกินแต่ผักอย่างเดียวก็ไม่อร่อย เขาเลยเลือกหันมากินแตงโมแทนการน้ำอัดลมหลังการเล่นฟุตบอล เขากินได้ถึง 2 ลูกในบางวัน กินแทนอาหารเย็นด้วยซ้ำ ผลก็คือน้ำหนักตัวของเขาลดลงจาก 75 เหลือ 65 กก. ภายในระยะเวลา 6 เดือนเท่านั้น เขาหลงเข้าใจว่าตัวเองสุขภาพแข็งแรงขึ้นแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าเขารู้สึกอ่อนเพลียอย่าไม่เคยเป็นมาก่อน แล้วยังปัสสาวะบ่อยมาก กลางคืนต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะถึง 2-3 หน ซึ่งสุดท้ายทำให้เขาเล่นฟุตบอลกับเพื่อน ๆ ไม่ไหวอีกต่อไป ภรรยาจึงพาไปพบแพทย์ ผลการตรวจเลือดทำให้เขาแทบล้มทั้งยืนพบว่า…