Category: มะเร็งปอด

  • หลักการดูแลสุขภาพ…เพื่อชีวิตห่างไกลมะเร็ง

    หลักการดูแลสุขภาพ…เพื่อชีวิตห่างไกลมะเร็ง

    หลักการดูแลสุขภาพ…เพื่อชีวิตห่างไกลมะเร็ง ไม่มีใครอยากให้ร่างกายที่เราแสนรักนี้เป็นโรคหรอกค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโรคใดก็ตาม ยิ่งหากเป็นโรคร้ายที่รักษายากหรือมีเกณฑ์การเสียชีวิตสูงแล้ว เราคงแทบจะตายกันไปในวันที่ทราบข่าวนั้นเลย โรคมะเร็งนี้เป็นหนึ่งในโรคที่คุกคามร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยและคนใกล้ชิดมาก ดังนั้นเรามาใช้ชีวิตตามหลักธรรมดาเพื่อดูแลร่างกายของเราให้ห่างไกลจากมะเร็งกันดีกว่าค่ะ 1. เลิกบุหรี่ ไม่ควรสูบบุหรี่ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ในรูปแบบไหน อีกทั้งยังไม่ควรเข้าไปสูดดมควันบุหรี่จากผู้อื่นด้วย เพราะพิษจากควันบุหรี่นั้นสามารถทำให้เป็นมะเร็งได้หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งปอด มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ การเลิกสูบบุหรี่สามารถลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดได้ถึงร้อยละ 90 แล้วยังทำให้คนใกล้ชิดปลอดภัยจากโรคนี้เพิ่มขึ้นด้วย 2. เลิกมีพฤติกรรมสำส่อนทางเพศ ไม่ว่าจะเพศใดการสำส่อนทางเพศก็เป็นต้นตอของโรคมะเร็งได้ทั้งนั้น ยิ่งโดยเฉพาะเพศหญิงที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย และมีหลายคู่ รวมไปถึงการติดเชื้อไวรัสหูดจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูกมาก ดังนั้นทุกครั้งจึงควรสวมถุงยางอนามัยและเลิกพฤติกรรมสำส่อนทางเพศ 3. เลิกเหล้า หากดื่มอยู่ก็ควรลดละเลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้หมด หรือไม่ดื่มเลยจะดีที่สุด หากต้องการดื่มให้ดื่มได้วันละ 2 แก้ว สำหรับเพศชายและ 1 แก้วเท่านั้นสำหรับเพศหญิง เพราะการดื่มหนัก ๆ จะทำให้สะสมสารก่อมะเร็งในช่องปาก กดภูมิต้านทานโรค ทำให้เป็นพิษต่อตับและตับอ่อน จึงเสี่ยงต่อมะเร็งตับมาก 4. หลบแดดเสมอ โดยเฉพาะแสงแดดที่มีรังสียูวีจัดจ้าในช่วงเวลาตั้งแต่แปดโมงเช้า ถึงบ่ายสี่โมงหรือจำเป็นต้องออกแดดก็ให้ทาครีมกันแดด แล้วสวมหมวก กางร่ม สวมแว่นกันแดด หรือสวมเสื้อแขนยาวสำหรับการรังสียูวีด้วยจะดีค่ะ 5. หลีกเลี่ยงการทานปลาน้ำจืดดิบ ๆ สุก ๆ…

  • สาเหตุการเป็นมะเร็ง พันธุกรรมหรือการใช้ชีวิต?

    สาเหตุการเป็นมะเร็ง พันธุกรรมหรือการใช้ชีวิต?

    สาเหตุการเป็นมะเร็ง พันธุกรรมหรือการใช้ชีวิต? มีเรื่องราวจะเล่าให้ฟังเกี่ยวกับผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดท่านหนึ่ง ที่เรื่องราวในชีวิตของทั้งตัวผู้ป่วยเองและคุณแม่ของผู้ป่วยน่าจะเป็นเรื่องราวที่บอกอะไรบางอย่างได้บ้างเกี่ยวกับโรคมะเร็งและการใช้ชีวิตนะคะ เผื่อคุณผู้อ่านจะนำไปพิจารณาและปรับใช้ชีวิตกันดูค่ะ ผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดท่านนี้อาศัยอยู่กับแม่ที่ต่างจังหวัด แม่ของเธอเป็นผู้หญิงที่สวยน่ารักคนหนึ่งแม้จะอายุเข้า 80 ปีแล้วแต่ก็ยังแข็งแรง ใช้ชีวิตเป็นสาวบ้านนามาตลอดชีวิต ไม่เคยทานวิตามินหรืออาหารเสริมใด ๆ มีผิวสีน้ำตาลเข้มเรียบเป็นมันไม่ได้ใช้โลชั่นบำรุงผิว มีริ้วรอยเหี่ยวย่อนบ้าง แต่ผมยังมีสีดำเงาสวย มีผมหงอกแค่ประปราย ดวงตามีประกายสดใสใจดีน่ารัก คุณยายใช้ชีวิตในสวนปลูกผักไว้กินเองและขายด้วย แล้วก็ยังทำไร่ทำนาทำสวยได้ทั้งที่อายุแปดสิบแล้ว แต่ลูกสาวอายุเพียง 47 กลับเป็นมะเร็งปอด การที่คุณยายมีสุขภาพแข็งแรง อารมณ์ดีอยู่เช่นนี้ แล้วก็ดูสบาย ๆ เพราะคุณยายออกกำลังกายทำสวน จึงมีเหงื่อทุกวัน ทั้งถางหญ้า รดน้ำต้นไม้ พรวนดิน ปลูกผักสวนครัวตั้งเกือบครึ่งไร่ ทั้งแตงกวา ผักกาด พริก ถั่วฝักยาว ตะไคร้ ใบโหะรา กะเพราะ ฯลฯ โดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลงเลย คุณยายใช้ผักในสวนของตัวเองในการทำกับข้าว ที่ใช้น้ำมันน้อยมาก ส่วนใหญ่มักทานเป็นน้ำพริกผักจิ้ม หรือแกง หรือนึ่ง ทานปลาเป็นส่วนใหญ่ เนื้อสัตว์ใหญ่ไม่ค่อยกิน ไม่ใช่ชูรส ปรุงรสด้วยเกลือนิดหน่อย กินขนมบ้างส่วนใหญ่เป็นกล้วยน้ำว้าในสวน ไม่มีโรคประจำตัว และสวดมนต์ไหว้พระ ใส่บาตรบ่อย ๆ…

  • ประมวลผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง

    ประมวลผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง

    ประมวลผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง จากสถิตินับถึงปีปัจจุบันพบว่าคนไทยนั้นเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว และมีอัตราการตายจากโรคนี้เพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้โรคมะเร็งกลายเป็นสาเหตุการตายอันดับที่หนึ่ง แซงหน้าอุบัติเหตุ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคหลอดเลือดสมอง รวมทั้งโรคปอดไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตคนไทยมากเป็นอันดับหนึ่งก็คือ มะเร็งตับ รองลงมาเป็นมะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และก็มะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยปัจจัยเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งได้แก่ – ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอก นั่นคือการได้รับสารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนจากอาหาร, การได้รับรังสีเอกซ์, รังสียูวีจากแสงแดด, การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบทุกชนิด, การติดเชื้อไวรัสแพบพิลโลมา, พยาธิใบไม้ตับ รวมถึงการดื่มเหล้าสูบบุหรี่ด้วย ฯลฯ – ปัจจัยจากความผิดปกติภายใน เช่น พันธุกรรม, ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ภาวะทุพโภชนาการ ฯลฯ ซึ่งเราสามารถสรุปกลุ่มผู้ที่เสี่ยงต่อการมะเร็งได้ดังนี้ 1. กลุ่มที่ดื่มเหล้าเป็นประจำ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ 2. กลุ่มที่สูบบุหรี่ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทางเดินหายใจ มะเร็งปอด มะเร็งกล่องเสียง แล้วหากดื่มเหล้าด้วยก็อาจเป็นมะเร็งช่องปากในลำคอได้อีก 3. กลุ่มที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี หรือทานอาหารที่ปนเปื้อนอะฟลาทอกซิล ที่เป็นเชื้อราที่ปนเปื้อนในอาหาร ทั้งพริกป่น ถั่วลิสงป่น ฯลฯ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ แล้วถ้าได้รับทั้งสองชนิดก็มีโอกาสในการเป็นมะเร็งตับเพิ่มมากขึ้น 4. กลุ่มที่ติดเชื้อพยาธิใบไม้ในตับ และทานอาหารที่ใส่ดินประสิว…

  • ใช้ชีวิตอย่างไร…ห่างไกลมะเร็งร้าย

    ใช้ชีวิตอย่างไร…ห่างไกลมะเร็งร้าย

    ใช้ชีวิตอย่างไร…ห่างไกลมะเร็งร้าย คุณทราบหรือไม่คะว่า หากเราบริหารจัดการวิถีการใช้ชีวิตให้ดีแล้ว จะสามารถป้องกันการเป็นโรคมะเร็งได้ถึงร้อยละ 30-40 เชียวนะคะ แล้วยังสามารถป้องกันโรคอื่น ๆ ที่ร้ายแรงได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ อาการไขมันในเส้นเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ตลอดจนโรคกระดูกพรุนได้ด้วย วันนี้มาดูคำแนะนำในการใช้ชีวิตเพื่อให้ห่างไกลจากมะเร็งกันนะคะ 1. คุณควรเลิกบุหรี่ เพราะคุณทราบหรือไม่คะว่าหากคุณสูบบุหรี่มากกว่า 1 ซอง หรือ 20 มวนต่อวันเป็นเวลา 10 ปีนั้น คุณจะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า! เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ และหากคุณสูบอยู่แล้วเกิดอยากเลิกขึ้นมาก็สามารถป้องกันโรคมะเร็งได้ถึงร้อยละ 60 การสูบบุหรี่ไม่ได้เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอดอย่างเดียว แต่ยังเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ หรือโรคถุงลมโป่งพองได้อีกด้วย 2. คุณควรเลิกดื่มสุรา หรือหากจำเป็นต้องดื่มเพื่อเข้าสังคมก็จำกัดไว้แค่วันละไม่เกิน 1 แก้ว ผู้ที่ดื่มสุรามากกว่า 3 แก้วต่อวันจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นถึงเกือบสิบเท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่ม แต่ถ้าคุณยังไม่เลิกดื่มแล้วยังสูบบุหรี่มากกว่าวันละ 1 ซองอีก ก็จะเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งมากขึ้นเป็น 50 เท่าเลยทีเดียว! น่ากลัวเอามาก ๆ ค่ะ 3. คุณควรปรับพฤติกรรมการกิน ดังต่อไปนี้…

  • รู้ทั้งรู้.. แต่เธอก็จะสูบต่อไป

    รู้ทั้งรู้.. แต่เธอก็จะสูบต่อไป

    รู้ทั้งรู้.. แต่เธอก็จะสูบต่อไป จากรายงานของสำนักข่าวซั่งไห่ เดลี่ ชี้ว่าหญิงสาวชาวเซี่ยงไฮ้นั้นสูบบุหรี่มากขึ้น เพราะต้องการหนีความเศร้า ความกดดันและสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคม จากรายงานภายในที่ประชุมหน่วยโรคมะเร็งปอดนานาชาติแห่งมหานครเซี่ยงไฮ้ เผยว่ามีหญิงเซี่ยงไฮ้ร้อยละ 3.7 ที่สูบบุหรี่แต่ขณะนี้ตัวเลขพุ่งทะยานขึ้นไปเป็นร้อยละ 4.8 แล้ว  โดยผู้สันทันกรณีเผยว่าต้นเหตุมาจากการทำงานหนัก  ความต้องการความตื่นเต้น  อยากสนุกสนาน อยากได้การยอมรับจากเพื่อนฝูงและคนรอบข้าง  พวกเธอจึงสูบบุหรี่มากขึ้น ดังเช่น  ลู่ จยาเฉิน พนักงานโรงแรม วัย 25 ปี บอกว่าเธอสูบบุหรี่ตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ตอนอายุได้ 18 ปี  วันที่เริ่มต้นวันนั้นรู้สึกหงุดหงิดเพราะทะเลาะกับแฟน และเพื่อนร่วมหอพักก็ยืนบุหรี่ให้ บอกว่ามันจะทำให้รู้สึกดีขึ้น ไม่ต่างจากหญิงคนอื่นที่สูบบุหรี่มวนแรกเพื่อลดอารมณ์ด้านลบของตัวเอง  บางส่วนสูบเพราะรู้สึกเปล่าเปลี่ยวหรือศร้าใจ  ซึ่งทั้งหมดล้วนกลายสภาพจากการสูบเพื่อพักผ่อนสบายใจ เป็นการเสพติดอย่างถอนตัวไม่ได้ อีกรายหนึ่ง หยวน อิน วัย 30 ปี  ทำงานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ เธอสูบบุหรี่เพื่อว่านี่คือความ “เก๋ไก๋” และบอกว่าการสูบบุหรี่เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับการเข้าสังคม แล้วยังบอกอีกด้วยความ จะเห็นผู้หญิงมากมายที่สูบบุหรี่ในบาร์มากกว่าบนท้องถนน  และการที่สูบบุหรี่ก็เพราะอิทธิพลของคนรอบข้างที่เข้าไปคลุกคลีด้วย ซึ่งจากรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเซี่ยงไฮ้เมื่อไม่นานมานี้เปิดเผยว่า โรคมะเร็งปอดกลายเป็นโรคมะเร็งที่ผลาญชีวิตของผู้หญิงมากเป็นอันดับสามแล้ว  เพราะลักษณะทางกายภาพของเพศหญิงนั้นอ่อนไหวต่อนิโคตินและสารอื่น ๆ ที่ผลิตออกมาจากบุหรี่มากกว่าผู้ชาย  หญิงสาวที่สูบบุหรี่ทั้งหลายจึงควรตรวจร่างกายทุก…