ใช้ความเมตตากรุณา เป็นยารักษาโรคโกรธ โรคพยาบาท

ใช้ความเมตตากรุณา เป็นยารักษาโรคโกรธ โรคพยาบาท

ใจที่บริสุทธ์โปร่งใส คือใจที่มีความสุข มีอารมณ์แจ่มใส ไม่รู้สึกโกรธ ไม่มีโทสะหรือความพยาบาทใด ๆ มาครอบงำ แต่คนในสังคมนี้เล่า ยากจะหากคนที่มีใจบริสุทธิ์ปลอดโปร่งได้อย่างแท้จริง ส่วนใหญ่ใจมีแต่ความหม่นมัวมืดดำไปด้วยโรคทางใจทั้งสิ้น คนที่เป็นโรคทางใจนั้น ก่อให้เกิดผลร้ายมากกว่าโรคทางกาย เพราะโรคใจเกิดขึ้นได้รวดเร็วทันที แล้วแล่นกระจายไปทั่วตัวในพริบตา เกิดได้บ่อยวันละหลายครั้ง ไม่เลือกที่ไม่เลือกเวลา โรคใจที่ว่าก็คือ โรคโลภ โรคโกรธ โรคหลงนั่นเอง ทำให้คนเราประสบกับความวิบัติมามากมายนักแล้ว

โรคลุแก่โทสะ มีความคิดอยากประทุษร้ายกัน เป็นโรคของคนที่มีใจคอโหดเหี้ยม หากไม่รู้จักยังยั้งชั่วใจก็ย่อมนำความเดือดร้อนมาสู่ตนได้มากกว่าโรคอื่นมากนัก

โรคโกรธ เกิดขึ้นจากการกระทำที่คนอื่นมากระทำแก่ตน ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ก็ตาม ทำให้รู้สึกขัดเคืองใจ แม้จะเป็นการกระทำของตัวเองที่ไม่ได้ดังใจก็สามารถโกรธตัวเองได้ด้วย ความโกรธสามารถเปลี่ยนคนมีสติปัญญา คนมีการศึกษา มีความสามารถให้กลายเป็นคนโง่ ทำเรื่องร้ายแรงได้ทั้งสิ้น

โรคผูกโกรธ คือโรคที่ต่อเนื่องมาจากโรคโกรธ เป็นการผูกความโกรธไว้ให้คุกรุ่นในใจ แต่เมื่อใดที่เห็นหน้าหรือนึกขึ้นมาได้ก็ทำให้โกรธได้เสมอ มีความฟุ้งซ่านเคืองแค้น พยายามหาทางแก้แค้นให้สมกับที่ทำไว้กับตนเอง

โรคพยาบาท เป็นโรคที่ต่อเนื่องจากความผูกโกรธอีกที เป็นความรู้สึกอยากล้างแค้นพล่าผลาญคนที่มาทำไว้กับตนเอง เป็นโรคร้ายแรงกว่าความโกรธและความผูกโกรธ เพราะจะแก้แค้นจองเวรไม่รู้จักจบสิ้น

ยารักษาโรคโกรธ โรคลุแก่โทสะ โรคผูกโกรธ และโรคพยาบาทนี้ก็คือ การใช้ความเมตตากรุณาเข้าเปลี่ยนความรู้สึกดังกล่าว หากเมื่อใดที่รู้สึกโกรธแค้นผู้ใจเจ็บหรือพยาบาทขึ้นมาก็ให้ใช้ความรักความสงสารแทน สงสารว่าที่เขามาทำกับเรานั้นเขาน่าสงสาร สงสารที่เขาไม่เห็นโทษของความผิดบาป แล้วเปลี่ยนเป็นความรู้สึกเมตตาเขาแทน จะทำให้หัวใจของคุณเย็นลง รู้สึกเมตตาเขาได้มากขึ้น และจะรู้สึกอยากให้อภัยเขาไปเอง ทำบ่อย ๆ เข้าก็จะบรรเทาอารมณ์ร้ายกาจเหล่านี้ให้หายไปจากใจได้