เฝ้าระวังเด็กมีไข้ช่วงหน้าฝน อาจเป็นไข้เลือดออก

เฝ้าระวังเด็กมีไข้ช่วงหน้าฝน อาจเป็นไข้เลือดออก

ในช่วงหน้าฝนที่มีอุณหภูมิเย็นลง เด็ก ๆ มักมีอาการเป็นหวัดคัดจมูก น้ำมูกไหล กันอยู่บ่อย ๆ แต่อย่างไรก็เป็นช่วงที่ควรระมัดระวังให้มากกว่าช่วงอื่นของปีเพื่อในระยะนี้จะเป็นช่วงที่มี ไข้เลือดออก ระบาดได้มาก ไข้เลือดออกนั้นเกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่ ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะ หากยุงลายไปกัดคนที่เป็นไข้เลือดออกอยู่แล้วไปกัดคนอื่น ๆ ต่อก็จะเป็นการแพร่กระจายเชื้อไปเรื่อย ๆ เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะใช้เวลาฟักตัวประมาณ 2-7 วัน จากนั้นผู้ป่วยก็จะมีไข้สูงแบบเฉียบพลัน เบื่ออาหาร หน้าแดง ตัวแดง ปวดหัว และอาจจะมีผื่นหรือจุดแดงขึ้นตามลำตัว ร่วมกันอาการคลื่นไส้อาเจียน และปวดท้องร่วมด้วย บางคนก็มีเลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน อุจจาระสีดำและช็อกได้ ให้สังเกตดูว่าหากไข้ลดแล้วผู้ป่วยยังซึมอยู่ ตัวเย็นกระสับกระส่าย ปวดท้อง อาเจียนหรือหมดสติ ให้รีบพามาโรงพยาบาลเพื่อรักษาอย่างเร่งด่วน มิเช่นนั้นอาจเสียชีวิตได้

หากในช่วงฤดูฝนนี้เด็ก ๆ เกิดเป็นไข้ขึ้นมา การดูแลเบื้องต้นก็คือให้ทานยาลดไข้พาราเซตามอลเท่านั้น แล้วเช็ดตัวเพื่อลดไข้ให้ ให้เด็กได้ดื่มน้ำบ่อย ๆ อาจเป็นน้ำผลไม้ น้ำเต้าหู้ น้ำแกงจืดก็ได้ ให้ทานอาหารที่ย่อยง่ายและนอนหลับพักผ่อนให้มาก ๆ

ควรให้แต่ยาลดไข้พาราเซตามอลเท่านั้น เพราะยากลุ่มอื่นที่อาจเป็นยากลุ่มแอสไพรินจะเข้าไปขัดขางการเกาะกลุ่มของเกร็ดเลือด ทำให้อาการรุนแรงขึ้น อาจมีเลือดออกในกระเพาะอาหารและช็อกได้ สำหรับเด็กแล้วอาจให้ยาพาราเซตามอลชนิดน้ำเชื่อมก็ได้ แต่ควรอ่านฉลากให้เข้าใจและให้กินยาตามเวลา หากมีไข้มากกว่า 2 วัน หรือเริ่มมีจุดแดง มีเลือดออกตามจุดต่าง ๆ ให้รีบพาไปโรงพยาบาลโดยด่วน

โรคไข้เลือดออกนี้ยังไม่มียารักษาและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะเด็กเล็ก คนชรา คนที่ไม่แข็งแรง ผู้ที่มีโรคอื่นอยู่แล้ว ยิ่งต้องระมัดระวังให้มากในช่วงนี้ด้วยการป้องกันยุงกัด และนอนในห้องที่มีมุ้งลวดหรือกางมุ้งนอน และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงในบ้านเป็นประจำ เพื่อป้องกันการแพร่พันธุ์ของยุงด้วย จึงจะเป็นการป้องกันไข้เลือดออกได้อย่างครบวงจร