Category: ไม่มีหมวดหมู่

  • คุณผู้ชายรู้หรือยัง…การใช้ถุงยางอนามัยที่ต้องควรจะทำอย่างไร?

    คุณผู้ชายรู้หรือยัง…การใช้ถุงยางอนามัยที่ต้องควรจะทำอย่างไร?

    คุณผู้ชายรู้หรือยัง…การใช้ถุงยางอนามัยที่ต้องควรจะทำอย่างไร? คุณผู้ชายหลายๆคนก็คงรู้กันอยู่แล้ว ว่าการใช้ถุงยางอนามัยนั้น ช่วยไม่ให้ติดต่อโรคทางเพศสัมพันธ์ และก็ช่วยในเรื่องคุมกำเนิดอีกด้วย แต่คุณผู้ชายจะรู้รึยังว่าการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องควรทำยังๆไง วันนี้เรามีหลักปฏิบัติ สำหรับการใช้ถุงยางอนามัย และข้อแนะนำเกี่ยวกับถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องมาฝากกันค่ะ ! – ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธุ์ – เลือกซื้อถุงยางที่มีคุณภาพโดยดูวันที่ผลิตและวันหมดอายุ (ถ้าไม่มีวันหมดอายุ ให้นับจากวันที่ผลิตไป 3 ปี ถ้ายังไม่เกิน 3 ปี แสดงว่ายังใช้ได้) – เลือกใช้ขนาดของถุงยางอนามัยให้เหมาะกับขนาดของตนเอง ถ้าเล็กไปมักจะฉีกขาดง่าย ถ้าใหญ่เกินมักจะหลุดง่าย – จงสวมถุงยางก่อนที่จะมีกิจกรรมทางเพศสัมพันธ์ – บีบไล่ลมออกจากส่วนปลายถุงยางตรงที่เป็นกระเปาะก่อนจะสวมเสมอ เพื่อไม่ให้ลมที่ค้างอยู่เป็นตัวทำให้ถุงยางแตก – อย่าดึงถุงยางขึ้นมาจนสุด ให้เหลือส่วนปลายตรงที่เป็นกระเปาะไว ้สำหรับรองรับน้ำอสุจิเสมอ – ให้คลี่ถุงยางออกจนคลุมถึงส่วนโคนของอวัยวะเพศด้วย – ถ้าถุงยางแตกระหว่างมีเพศสัมพันธ์อยู่ ให้นำออกมาเปลี่ยนและสวมอันใหม่ทันที – เมื่อมีการหลั่งน้ำอสุจิแล้ว ให้ถอดถุงยางออกในระหว่างที่อวัยวะเพศยังแข็งอยู่ห้ามแช่อวัยวะเพศไว้ในช่องคลอด – การถอดถุงยางให้ใช้กระดาษชำระพันรอบขอบถุงยางให้กระชับอวัยวะเพศไว้ก่อน แล้วถอดถุงยางออก อย่าให้เปื้อนส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย – เมื่อจะมีเพศสัมพันธ์ครั้งใหม่ให้เปลี่ยนถุงยางอนามัยทุกครั้งเสมอ – ถ้าจะใช้สารหล่อลื่น ควรใช้สารหล่อลื่นเช่น ky หรือ xy…

  • มาดู! กีฬายอดฮิตของคนเมือง

    มาดู! กีฬายอดฮิตของคนเมือง

    มาดู! กีฬายอดฮิตของคนเมือง ปัญหาสำหรับคนเมืองที่ต้องการออกกำลัง เวลาถือเป็นอุปสรรคที่สำคัญ เวลาของเราในแต่ละวันก็รู้สึกว่าน้อยเหลือเกิน เพราะเวลาหมดไปกับการเดินทางไปและกลับจากที่ทำงาน หลายคนที่อยากออกกำลังกาย จึงอดไป แต่ก็ยังมีอีกหลายวิธี ที่สามารถออกกำลังกายได้ง่ายๆ ลองมาดูกีฬายอดฮิตของคนเมือง เพื่อนำไปเป็นไอเดียในการดูแลสุขภาพกันดีกว่าค่ะ กีฬาที่เล่นต่อหนึ่งชั่วโมง / ทำให้คุณเบิร์นแคลอรีได้เท่าไหร่? – แบดมินตัน 200-800 cal/HR – โยคะ 200-400 cal/HR – จ๊อกกิ้ง 600-1000 cal/HR – เต้นแอโรบิค 500-900 cal/HR – ปั่นจักรยาน 250-800 cal/HR เทคนิคเพิ่มความฟิต (หัวใจและระบบไหลเวียนเลือด) สำหรับมือสมัครเล่น – ออกกำลังกายสม่่ำเสมอครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที – ระดับปานกลางอย่างน้อย 5 ครั้งต่อสัปดาห์ – ระดับหนักมากอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ สำหรับมืออาชีพ – รู้จักตนเองและวางแผนการฝึกซ้อม – นักกีฬาสามารถรู้สมรรถนะการจับออกซิเจนสูงสุดของตัวเองได้ด้วยการทดสอบหาค่า VO2…

  • วิธีสังเกตอาการต่างของโรคมะเร็ง

    วิธีสังเกตอาการต่างของโรคมะเร็ง

    วิธีสังเกตอาการต่างของโรคมะเร็ง โดย : วราธร จารุชลิตากุล อาการของ การเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย 1. มะเร็งปากมดลูก อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณอาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศ สัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูด นื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ ได้ 2. มะเร็งในมดลูก อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่อง ท้อง 3. มะเร็งรังไข่ อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศ สัมพันธ์ > มีปัญหา เกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการปวดหลัง 4. มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย) อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาการ ปวด ตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของ ช่องท้อง 5. มะเร็งปอด อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำหนักลดอย่าง ฮวบฮาบ เจ็บ หน้าอกและหายใจลำบากหรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 6. มะเร็งตับ อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ ชัด 7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ 8. มะเร็งสมอง อาการ ปวดศีรษะนาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นอาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ การเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่นมีอาการชาและเป็น อัมพาตชั่วคราวควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มี อาการ เหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย 9. มะเร็งในช่องปาก อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำ หรือ เป็นเวลานาน 10. มะเร็งในลำคอ อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที มีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบาก หรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึก ได้ 11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วอาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อย…

  • รู้จักความปวดกับผู้ป่วยมะเร็ง จากแพทย์ NCI

    รู้จักความปวดกับผู้ป่วยมะเร็ง จากแพทย์ NCI

    รู้จักความปวดกับผู้ป่วยมะเร็ง จากแพทย์ NCI ความปวดเป็นความรู้สึกที่มีอิทธิพลอย่างมากในการทำลายความสุข รวมทั้งรบกวน การประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องกระทำเป็นกิจวัตร โดยความปวดอาจเกิดขึ้นเป็น ครั้งคราวหรือต่อเนื่องตลอดเวลา ความปวดเกิดร่วมกับผู้ป่วยไข้ด้วยโรคมะเร็ง ได้ทุกระยะ โดยเฉพาะเมื่อโรคมะเร็งอยู่ในระยะแพร่กระจาย แต่ก็มีผู้ป่วยโรคมะเร็ง จำนวนไม่น้อยที่ พบว่าไม่เคยมีความปวดเกิดขึ้น โรคมะเร็งไม่ใช่สาเหตุที่ก่อให้เกิด ความปวดเท่านั้น ในนผู้ ป่วยโรคมะเร็งความปวดอาจเกิดจากผล ข้างเคียงของการบำบัด โรคมะเร็ง หรือเป็นความปวดชนิดธรรมดาที่เกิดขึ้นกับบุคคลธรรมดาทั่วไป ความ ปวดจากโรคมะเร็งจะรุนแรงหรือไม่ขึ้นกับขนิดของโรคมะเร็ง อวัยวะที่เกิดโรค รวมทั้งสภาพ ร่างกาย และจิตใจของผู้ป่วยโดยเฉพาะเมื่อร่างกายอ่อนล้า มีความกลัว ซึม เศร้า หรือวิตกกังวลเกิดขึ้น จะมีส่วนทำให้ความปวดที่เป็นอยู่มีความรุนแรงมากขึ้น ผู้ป่วย ที่มีความปวดเท่านั้นที่จะรู้สึก ถึงลักษณะและระดับความรุนแรงของ ความปวดที่เกิด ขึ้น กิจกรรมต่าง ๆ ที่ถูกกระทบจนไม่อาจกระทำได้ รวมทั้งสภาพทางด้านจิตใจที่ทรุดลง อันเป็นผลจากความปวด ดังนั้น เมื่อเกิดความปวดขึ้นต้องไม่ตื่นตระหนก แต่อย่ารีรอ และไม่ต้องเกรงใจให้แจ้งแพทย์ พยาบาลหรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้การดูแล รับรู้ถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับความปวดอย่างละเอียดลออทันทีที่มีโอกาส ซึ่งจะเป็นวิธีที่ ี่ช่วยทำให้การบำบัดความปวดที่เกิดขึ้นได้ผลมากที่สุด อย่าเบื่อหรือรำคาญกับคำถามมาก…

  • ทำความเข้าใจ การศัลยกรรม ในผู้ป่วยมะเร็ง จากแพทย์สถาบันมะเร็งแห่งชาติ

    ทำความเข้าใจ การศัลยกรรม ในผู้ป่วยมะเร็ง จากแพทย์สถาบันมะเร็งแห่งชาติ

    ทำความเข้าใจ การศัลยกรรม ในผู้ป่วยมะเร็ง จากแพทย์สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ศัลยกรรม ในผู้ป่วยมะเร็ง โดยทั่วไปแล้ว คำว่า”ศัลยกรรม”หมาย ถึง การรักษาโรคโดยวิธีผ่าตัด ดังนั้น ศัลยกรรมในผู้ ป่วยมะเร็ง จึงหมายถึง การรักษาโรคมะเร็งด้วยการผ่าตัด การผ่าตัดที่ ใช้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งนั้นมีหลายลักษณะ แบ่งออกตามวัตถุประสงค์ของการ ผ่าตัดได้ ดังนี้ 1. การผ่าตัดเพื่อการวินิจฉัย (Biopsy) เป็น กาตัดหรือขลิบ ชิ้นเนื้อจากก้อน เนื้องอก หรืออวัยวะที่สงสัยว่าจะเป็นมะเร็ง ส่งตรวจทางพยาธิ วิทยา เพื่อการพิสูจน์และ วินิจฉัยโรค วิธีนี้จะสามารถยืนยันได้ ว่าเนื้องอก หรืออวัยวะนั้น ๆ เป็นเนื้องอก ธรรมดา หรือ มะเร็ง การ ตัดชิ้นเนื้อ เพื่อพิสูจน์ ดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ ก. ตัดชิ้นเนื้อ เพียงบางส่วน (Incisional Biopsy) วิธีนี้เลือกใช้ ในกรณีที่เนื้อ งอก…

  • มารู้จักยาเคมีบำบัด ที่ใช้กับโรคมะเร็งกัน!

    มารู้จักยาเคมีบำบัด ที่ใช้กับโรคมะเร็งกัน!

    มารู้จักยาเคมีบำบัด ที่ใช้กับโรคมะเร็งกัน! ยาเคมีบำบัด คือ ยาที่มีสารเคมีที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งชนิดต่างๆ การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดนั้น สามารถรักษาด้วยวิธีนี้อย่างเดียว หรือ สามารถใช้ร่วมกับการรักษาอย่างอื่นได้ ซึ่งยาเคมีบำบัด ใช้ไปทำลายเซลล์มะเร็ง และอาจจะไปทำลายเซลล์ปกติบางส่วนได้ ดังนั้นผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัดนั้น อาจจะมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ แต่ก็แล้วแต่ชนิดของโรคมะเร็งและร่างกายของผู้ป่วย ยาเคมีบำบัด จะเข้าไปขัดขวางขบวน การเจริญเติบโตของวงจรชีวิต เซลล์ทำให้ เซลล์ตาย ยาแต่ละตัวออกฤทธิ์แตกต่างกันในการรักษา บางแผนการรักษาประกอบด้วยยาหลาย ชนิด ที่ให้ร่วมกัน อาการข้างเคียง ยาเคมีบำบัดมีผลกระทบต่อเซลล์ปกติด้วย โดยเฉพาะเซลล์ที่มีการเจริญ และแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว เช่น เซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร, เส้นผม, เม็ดเลือด ดังนั้น จึงเป็นสาเหตุของอาการข้างเคียงหรืออาการไม่พึงประสงค์ระยะหนึ่งในระหว่างการ ให้ยาแต่ละชุด เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาสร้างเซลล์ปกติขึ้นมาทดแทน อาการไม่พึงประสงค์ ที่ต้องปรึกษาแพทย์ มีดังนี้ 1. มีเลือดออกหรือเป็นแผลในปากมาก 2. มีผื่นหรืออาการแพ้ 3. มีไข้ หนาวสั่น 4. ปวดมากบริเวณที่ฉีด 5. หายใจลำบาก 6. ท้องเดินหรือท้องผูกอย่างรุนแรง 7. ปัสสาวะหรืออุจจาระมีเลือดปน อาการไม่พึงประสงค์ที่พบบ่อย คือ 1.…

  • โภชนาการ กับการเกิดโรคมะเร็ง

    โภชนาการ กับการเกิดโรคมะเร็ง

    โภชนาการ กับการเกิดโรคมะเร็ง แพทย์ศึกษาค้นพบว่า อาหารที่เรารับประทานนั้นมีส่วนสำคัญต่อสุขภาพ และมีส่วนสัมพันธ์ต่อการเกิดโรคมะเร็งได้เป็นอย่างมากถึง 30-50% แต่สำหรับอาหารประเภทผัก ผลไม้ ธัญพืช และ เครื่องเทศต่างๆ ก็มี คุณสมบัติในการป้องกันมะเร็งได้ ดังนั้น การรับประทานอาหารอย่างถูกต้องตามหลัก โภชนาการ จึงเป็นหนทางหนึ่ง ซึ่งสามารถป้องกันโรคมะเร็งได้ เรามาดูอาหารที่มีความเสี่ยงสูง ต่อการเกิดโรคมะเร็งกันค่ะ… 1.อาหารที่มีรา ขึ้นโดยเฉพาะราสีเขียว-สี เหลือง 2.อาหารไขมันสูง 3.อาหารเค็มจัด ส่วนไหม้เกรียมของอาหารปิ้ง ย่าง รมควัน และอาหารที่ถนอมด้วยเกลือ ดินประสิว ยังไงถ้ารู้แล้ว ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกที่กล่าวไปข้างต้น เพื่อสุขภาพของตนเอง และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ^__^  

  • ข้อปฏิบัติ 12 ประการ เพื่อป้องกันและลดการเสี่ยง ต่อการเกิดของโรคมะเร็ง

    ข้อปฏิบัติ 12 ประการ เพื่อป้องกันและลดการเสี่ยง ต่อการเกิดของโรคมะเร็ง

    ข้อปฏิบัติ 12 ประการ เพื่อป้องกันและลดการเสี่ยง ต่อการเกิดของโรคมะเร็ง วันนี้เรามี 12 ข้อ ที่ควรปฏิบัติ เพื่อการป้องกันและลดการเสี่ยง การเกิดโรคมะเร็งมาฝากกันค่ะ.. 5 ประการเพื่อการป้องกัน 1. ควรรับประทานผักตระกูลกะหล่ำให้มากๆ เพื่อป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ลำไส้ส่วนปลายกระเพาะอาหาร และอวัยวะระบบทางเดินหายใจ 2. ควรรับ ประทานอาหารที่มีกากมากเช่น ผัก ผลไม้ ข้าว ข้าวโพด และเมล็ดธัญพืชอื่นๆ เพื่อป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ 3. ควรรับ ประทานอาหารที่มีเบต้า- แคโรทีน และ ไวตามินเอ สูงเช่น ผัก ผลไม้ สีเขียว-เหลือง เพื่อป้องกันมะเร็งหลอด อาหาร กล่องเสียง และปอด 4. ควรรับประทานอาหารที่มีไวตามินซีสูง เช่น ผัก ผลไม้ต่าง ๆ เพื่อป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร และ กระเพาะอาหาร 5. ควบคุมน้ำหนักตัว โรคอ้วนมีความสัมพันธ์กับโรคมะเร็งมดลูก ถุงน้ำดี เต้านม และลำไส้ใหญ่ การออก กำลังกายและการลดรับประทานอาหารที่ให้ พลังงานสูง จะช่วยป้องกันมะเร็ง…

  • แพทย์ชี้ประโยชน์ของหญ้าเทวดา หรือ หญ้าปักกิ่ง กับการรักษาโรคมะเร็ง

    แพทย์ชี้ประโยชน์ของหญ้าเทวดา หรือ หญ้าปักกิ่ง กับการรักษาโรคมะเร็ง

    แพทย์ชี้ประโยชน์ของหญ้าเทวดา หรือ หญ้าปักกิ่ง กับการรักษาโรคมะเร็ง ในปัจจุบันโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับสองของประชากรประเทศไทย และยังมีแนวโน้มการตายสูงขึ้นทุกปี ยารักษาโรคมะเร็งที่ใช้ในทางการแพทย์ ก็มีแต่ยาแผนปัจจุบันที่มีราคาแพง ซึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด ทั้งในรูปแบบยาสำเร็จรูป หรือวัตถุดิบ อีกทั้งยังพบว่ามีผลข้างเคียงสูง ทางเลือกอีกทางหนึ่งของผู้ป่วยโรคมะเร็ง จึงหันมานิยมใช้สมุนไพรพื้นบ้านเพื่อนำมารักษาโรคมะเร็งที่เป็นอยู่ สมุนไพรจากประเทศจีนชนิดหนึ่ง ซึ่งมีผู้นำมาเผยแพร่ประมาณ 30 ปีมาแล้ว และปัจจุนยังคงนิยมกันอยู่อย่างแพร่หลาย คือหญ้าเทวดา หรือ หญ้าปักกิ่ง หรือภาษาจีนเรียกว่า เล่งจือเฉ้า หญ้าเทวดา หรือ หญ้าปักกิ่ง เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว แต่ก็ไม่ใช่พืชในวงหญ้าทั่วไป เป็นไม่ล้มลุก มีดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด กลีบดอกมีสีฟ้าปนม่วง ใบประดับกลม ร่วงง่าย เป็นพืชที่ชอบดินร่วนหรือดินปรทราย งอกงามในที่มีแดดรำไร ไม่ต้องการน้ำมาก เพราะปลูกโดยการเพาะชำหรือเพาะเมล็ดปลูกได้ง่ายและไม่จำเป็นต้องมีเนื้อมาก แพทย์ชี้ถึง สรรพคุณของหญ้าเทวดาที่มีต่อผู้ป่วยโรคมะเร็งคือ น้ำของหญ้าเทวดามีฤทธิ์ยับยั้งปานกลางต่อโรคมะเร็ง และช่วยบรรเทาอาการปวดจากโรคมะเร็ง และแพทย์พบว่า ผู้ป่วยที่ใช้หญ้าเทวดาควบคู่กับการรักษาแพทย์ปัจจุบัน ยังช่วยลดอาการค้างเคียงจากการใช้ยาเคมีบำบัด แถมยังช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งดีขึ้น ลดความทุกข์ทรมาน ในบางรายมีอายุยาวขึ้น 

  • การรักษาโรคมะเร็ง ที่ปฏิบัติกันอยู่ในประเทศไทย!

    การรักษาโรคมะเร็ง ที่ปฏิบัติกันอยู่ในประเทศไทย!

    การรักษาโรคมะเร็ง ที่ปฏิบัติกันอยู่ในประเทศไทย! การรักษามะเร็งตามหลักสากลที่ ปฏิบัติกันอยู่ในประเทศไทย ด้วยหลักการรักษามะเร็ง แบบผสมผสานของ ศัลยกรรม (ผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออกรวมทั้งต่อมน้ำเหลืองบริเวณข้าง) รังสีรักษา (ฉายแสงบริเวณที่มีเซลล์มะเร็งอยู่เป็นการรักษาแบบเฉพาะที่เช่นเดียวกับวิธี ของศัลยกรรม) เคมีบำบัด (การรักษาหรือการทำลายเซลล์มะเร็งทั้งที่ต้นตอและที่กระจาย ไปตามทางเดินน้ำเหลือง กระแสเลือดหรืออวัยวะอื่นของร่างกาย เป็นการรักษามะเร็ง แบบทั้งตัวของผู้ป่วยมะเร็ง โดยการรับประทานยาที่มีความสามารถในการฆ่า หรือทำลาย เซลล์มะเร็ง ฉีดยาทางหลอดเลือดดำหรือแดง เป็นต้น) การรักษาโดยการใช้ฮอร์โมน เนื่องจากมะเร็งบางชนิดมีความไวต่อการรักษาด้วยฮอร์โมน และการรักษาโดยการเพิ่ม ภูมิคุ้มกัน ให้กับร่างกาย เพื่อที่จะได้กำจัดเซลล์มะเร็งให้หมดไปจากร่างกาย และผู้ป่วยก็จะหายจากโรคมะเร็ง เนื่องจากการรักษา โดยการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายนี้ยังอยู่ ระหว่างการศึกษาอยู่ต้องการข้อมูลอีกมากมายเพื่อยืนยันว่า ได้ผลในการรักษามะเร็ง ดังนั้นวิธีหลังนี้จึงเริ่ม เป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย แต่มีการนำยาหรือสารเคมีในกลุ่มนี้ ้มาใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัด เพื่อให้การรักษาดีขึ้น มะเร็งแต่ละกลุ่มหรือแต่ละชนิดจะได้รับ การรักษาแบบผสมผสานที่ไม่เหมือนกัน เพราะว่ามะเร็งบางชนิดมีการตอบสนองต่อการ รักษาทางศัลยกรรมและรังสีรักษาดี เช่น มะเร็งผิวหนัง ก็ไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยเคมีบำบัด หรืออื่น ๆ มะเร็งบางชนิดมีการตอบสนองต่อเคมีบำบัด และรังสีรักษาดีไม่จำเป็นต้องใช้ วิธีศัลยกรรม เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น มะเร็งเต้านม ในผู้ป่วย…